นายบุณยฤทธิ์ กัลยาณมิตร อธิบดีกรมการค้าภายใน เปิดเผยภายหลังการประชุมเพื่อหาแนวทางการจำหน่ายน้ำตาลทรายภายในประเทศ ร่วมกับยี่ปั๊วน้ำตาลทราย 20 รายว่า ฝ่ายยี่ปั๊วยืนยันที่จะกระจายน้ำตาลทรายตามราคาใหม่ที่ได้รับจากโรงงานไปยังซาปั๊วและร้านค้าปลีกทั่วไป เพราะขณะนี้สต็อกเก่าหมดไปนานแล้ว มีแต่สต็อกใหม่ โดยเมื่อซาปั๊วและร้านค้าปลีกรับไปจำหน่ายต่อก็จะต้องขายในราคาที่ปรับลดลงตาม หากจำหน่ายในราคาที่สูงเกินกว่าประกาศคณะกรรมการกลางว่าด้วยราคาสินค้าและบริการ (กกร.) จะถือว่ามีความผิด โดยมีโทษจำคุก 5 ปี ปรับไม่เกิน 100,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
"กรมฯ จะเร่งประชาสัมพันธ์เพื่อให้เป็นที่เข้าใจโดยทั่วกันว่า การลอยตัวราคาน้ำตาลทราย ไม่ได้หมายความว่าจะขายในราคาไหนก็ได้ แต่ราคาจำหน่ายมีการประกาศเป็นเกณฑ์เอาไว้ โดยยึดตามราคาตลาดโลก ถ้าราคาตลาดโลกลง ราคาขายในประเทศก็จะลดลง ซึ่งขณะนี้ราคาตลาดโลกลดลง ทำให้ราคาหน้าโรงงานลดลง กก.ละ 1.60-1.80 บาท ก็เอาตัวนี้เป็นตัวตั้ง ราคาปลายทางก็ต้องลดเท่ากันกก.ละ 1.60-1.80 บาท" อธิบดีกรมการค้าภายในระบุ
สำหรับราคาน้ำตาลทรายที่ได้มีการสำรวจหลังจากลอยตัวราคาหน้าโรงงาน พบว่าในห้างค้าปลีกค้าส่งสมัยใหม่, ห้างสรรพสินค้า และร้านสะดวกซื้อ จำหน่ายกก.ละ 21.50 บาท ลดลงเกินกว่าราคาหน้าโรงงานที่ปรับลดลง กก.ละ 1.60-1.80 บาท โดยห้างได้ปัดเศษให้ เพราะทอนเงินยาก ส่วนในตลาดสด, ร้านค้าปลีกทั่วไป ยังจำหน่ายในราคาขายปลีกสูงสุดที่กก.ละ 23.50 บาท ขณะที่พบว่าบางแห่งจำหน่ายกก.ละ 24 บาท
นายบุณยฤทธิ์ กล่าวว่า กรมการค้าภายในจะประชาสัมพันธ์ประมาณ 1-2 สัปดาห์ เพื่อให้จำหน่ายน้ำตาลทรายในราคาที่ถูกต้อง และจากนั้นจะจัดส่งทีมงานลงไปตรวจสอบการจำหน่ายในตลาดสด ร้านค้าปลีกทั่วไป หากตรวจสอบพบว่ามีการจำหน่ายเกินกว่าราคาที่กำหนด จะต้องถูกดำเนินการตามกฎหมายทันที และจะตรวจสอบย้อนกลับด้วยว่ารับน้ำตาลทรายมาจากยี่ปั๊ว หรือซาปั๊วรายใด หากเป็นการขายราคาสูงกว่าราคาที่กำหนดมาก่อนที่จะถึงผู้ค้าปลีก ก็จะดำเนินการตามกฎหมายด้วย