นายศรพล ตุลยะเสถียร ผู้อำนวยการสำนักเศรษฐกิจมหภาค สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) เชื่อว่า ขณะนี้เศรษฐกิจไทยเติบโตได้อย่างเต็มศักยภาพแล้ว โดยคาดว่าในปีนี้เศรษฐกิจไทยมีโอกาสจะเติบโตได้สูงกว่า 4.2% เนื่องจากการการลงทุนที่จะเกิดขึ้นจากโครงการต่างๆ ในเขตพัฒนาเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก (EEC) จะมีส่วนในการผลักดันเศรษฐกิจไทยให้ขยายตัวได้ดีกว่าประมาณการที่ สศค.ตั้งไว้
ในขณะที่คาดว่าทั้งปี 60 เศรษฐกิจไทยน่าจะเติบโตได้ราว 4% ซึ่งสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) จะมีการประกาศตัวเลขอย่างเป็นทางการในวันพรุ่งนี้ (19 ก.พ.)
นายศรพล กล่าวว่า สาเหตุที่เชื่อว่าเศรษฐกิจไทยเติบโตได้เต็มศักยภาพแล้วมาจากเครื่องชี้วัดในหลายตัว เช่น มูลค่าการส่งออก ที่ในปี 60 ขยายตัว 9.9% ถือว่าสูงสุดในรอบ 6 ปี ถือว่ามีการฟื้นตัวที่ชัดเจนมาก, จำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติที่เดินทางเข้าประเทศไทยในปี 60 อยู่ที่ 35.4 ล้านคน ซึ่งถือว่าสูงสุดเป็นประวัติการณ์ คิดเป็นการขยายตัว 8.8% ขณะที่รายได้จากการท่องเที่ยวเพิ่มขึ้น 12.2% เห็นได้ว่าเป็นการเข้ามาของนักท่องเที่ยวในเชิงคุณภาพมากกว่าปริมาณ ขณะที่เริ่มเห็นการลงทุนภาคเอกชนเพิ่มมากขึ้น ซึ่งการส่งออกและการลงทุนจะมีความสอดคล้องกัน โดยเมื่อการส่งออกเพิ่มขึ้น การลงทุนก็จะเพิ่มขึ้นตาม ดูได้จากยอดคำขอรับการส่งเสริมการลงทุน, การนำเข้าวัตถุดิบตลอดจนเครื่องมือเครื่องจักรจากต่างประเทศที่เพิ่มขึ้นต่อเนื่องเพื่อนำมาใช้ในการผลิตสินค้า และอัตราเงินเฟ้ออยู่ในระดับที่ไม่เป็นอุปสรรรคต่อการพัฒนาทางเศรษฐกิจและไม่เป็นอุปสรรคต่อภาคเอกชนในการดำเนินธุรกิจเช่นกัน
อย่างไรก็ดี แม้จะเห็นเครื่องชี้เศรษฐกิจไทยหลายตัวที่มีทิศทางดีขึ้น แต่กระทรวงการคลังก็ไม่ได้ละเลยการดูแลเศรษฐกิจในภาพรวม โดยยังดำเนินนโยบายการคลังที่สนับสนุนการเติบโตของเศรษฐกิจอย่างต่อเนื่อง
"เศรษฐกิจเราฟื้นแล้ว เราโตเต็มศักยภาพแล้ว และตัวเลขดังกล่าวบ่งชี้ว่าในปี 61 เศรษฐกิจไทยจะเติบโตอย่างต่อเนื่อง และมีแนวโน้มจะดีขึ้นกว่าเดิม สศค.คาดว่าปี 61 จีดีพีจะโตได้ดีกว่าปี 60 ซึ่งคาดว่าปีนี้จะโตได้ 4.2% ที่ได้มีการคิดรวมโครงสร้างการลงทุนใน EEC เพียงบางส่วน แต่ยังไม่ได้ใส่สิ่งที่ EEC จะนำมาซึ่งการเพิ่มศักยภาพในเชิง supply side อันจะช่วยทำให้จีดีพีขยายตัวได้สูงกว่า 4.2% ได้อย่างแน่นอน" นายศรพล ระบุ