นายไพรินทร์ ชูโชติถาวร รมช.คมนาคม เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะกรรมการจัดระบบการจราจรทางบก (คจร.) ในวันนี้ได้มีมติอนุมัติโครงการรถไฟฟ้าสายสีน้ำตาล ช่วงแคราย-ลำสาลี (บึงกุ่ม) เป็นรถไฟฟ้าเส้นที่ 11 ซึ่งจะทำให้กรุงเทพฯ มีเส้นทางรถไฟฟ้ารวมระยะทางแล้วทั้งหมด 480 กิโลเมตร (กม.) ติดอันดับเป็นมหานคร TOP 5 ของโลก หลังจากนี้การรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย(รฟม.) จะดำเนินการในรายละเอียดต่อไป
สำหรับจุดเด่นของรถไฟฟ้าสายสีน้ำตาลมีระยะทาง 29 กม.จะมีจุดเชื่อมรถไฟฟ้า 7 สาย เชื่อมจากฝั่งตะวันออกไปตะวันตก และเป็นระบบรางเบาหรือโมโนเรล รวมทั้งการพัฒนารถไฟฟ้าและระบบทางด่วนบนแนวสายทางเดียวกัน
นอกจากนี้ รมช.คมนาคม ยังได้กล่าวการสัมมนา "แผนการลงทุนเมกกะโปรเจ็กต์ของรัฐกับโอกาสการพัฒนาเมือง" ว่า รัฐบาลชุดนี้จะผลักดันอนุมัติโครงการรถไฟฟ้าให้ครบ 10 เส้นทางตามแผนแม่บท รวมระยะทาง 464 กม.จากปัจจุบันที่อนุมัติและก่อสร้างอยู่ 5 เส้นทาง ระยะทางรวม 109.8 กม.เพื่อรองรับการเติบโตของกรุงเทพมหานครเป็นมหานคร
ขณะเดียวกันกระทรวงคมนาคมกำลังพิจารณารูปแบบการพัฒนาสถานีกลางบางซื่อที่ทาง JICA ได้ศึกษารูปแบบการพัฒนามาแล้ว โดยโครงการนี้มีพื้นที่รอบสถานีกลางบางซื่อถึง 4 พันไร่ ซึ่งจะทยอยการพัฒนาให้สามารถเปิดดำเนินการได้ในปี 63 พร้อมกับเปิดให้บริการโครงการรถไฟฟ้าสายสีแดง ซึ่งคาดว่าการรถไฟแห่งประเทศไทย (ร.ฟ.ท.) จะพลิกฟื้นกิจการได้จากโครงการนี้
"สถานีกลางบางซื่อจะเป็นศูนย์กลางระบบรางรองรับรถไฟความเร็วสูง รถไฟฟ้า รถไฟ แทนที่หัวลำโพง และทาง JICA ออกแบบทำทางเชื่อมจากหมอชิตไปบางซื่อระยะทาง 2 กม.เป็นลอยฟ้า ก็น่าสนใจ" นายไพรินทร์ กล่าว
ทั้งนี้ สถานีกลางบางซื่อจะเป็นสภานีกลางรองรับรถไฟความเร็วสูง กรุงเทพ-นครราชสีมา-หนองคาย (รถไฟไทย-จีน), รถไฟความเร็วสูง กรุงเทพ-เชียงใหม่ (รถไฟไทย-ญี่ปุ่น), รถไฟความเร็วสูงเชื่อม 3 สนามบิน, รถไฟฟ้าสายสีน้ำเงิน, รถไฟฟ้าสายสีแดง
รมช.คมนาคม กล่าวว่า รัฐบาลจะเร่งอนุมัติโครงการก่อสร้างโครงการพื้นฐานรองรับในพื้นที่ระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก (EEC) ได้แก่ โครงการรถไฟความเร็วสูงเชื่อม 3 สนามบิน คาดเปิดประมูลในเดือน มี.ค.นี้ในรูปแบบ PPP, โครงการรถไฟทางคู่, โครงการศูนย์ซ่อมบำรุงอากาศยานอู่ตะเภา
นอกจากนี้จะมีโครงการท่าเรือแหลมฉบัง เฟส 3, ท่าเรือมาบตาพุด เฟส 3, ท่าเรือสัตหีบ ซึ่งเป็นท่าเรือสำหรับเรือครุยซ์, โครงการมอเตอร์เวย์