นายธีธัช สุขสะอาด ผู้ว่าการยางแห่งประเทศไทย (กยท.) ในฐานะเลขานุการบอร์ด กยท. เปิดเผยว่า ที่ประชุมบอร์ด กยท.วานนี้ (21 ก.พ.) ได้มีวาระพิจารณาทบทวนโครงการบริหารการจัดเก็บค่าธรรมเนียมการส่งยางพาราออกนอกราชอาณาจักร (Cess) โดยได้เชิญผู้แทนจากกรมศุลกากร และสำนักงานอัยการสูงสุด เข้าร่วมให้ข้อมูลในปัญหาต่างๆ ที่พบ และเหตุผลที่ กยท.ควรปรับปรุงระบบการจัดเก็บเงิน Cess ซึ่งที่ผ่านมาพบว่าเกิดการรั่วไหล และไม่สามารถตรวจสอบได้ทั้งระบบ เพราะข้อมูลตัวเลขการจัดเก็บค่าธรรมเนียมของทั้ง 3 หน่วยงาน ได้แก่ กยท. กรมศุลกากร และกรมวิชาการเกษตรไม่ตรงกัน
นอกจากนั้น ยังมีเป้าหมายเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการจัดเก็บสูงขึ้น เพิ่มคุณภาพการบริการ และมีความโปร่งใสในการบริหารงาน โดยสามารถดำเนินการผ่านระบบ NSW (National Single Window) ให้สามารถเชื่อมโยงข้อมูลการจัดเก็บค่าธรรมเนียมตั้งแต่ต้นทางถึงปลายทางไปยังด่านต่างๆ ทั่วประเทศได้
ทั้งนี้ การปรับปรุงระบบการจัดเก็บค่าธรรมเนียมฯ กยท.จะคัดเลือกผู้ที่มีความเชี่ยวชาญและมีความพร้อมด้านเงินทุน เข้ามาวางระบบและเสนอแผนงาน โดยจะได้รับค่าจ้างที่เหมาะสมกับงาน ไม่ใช่การมอบหมายให้เอกชนมาทำหน้าที่จัดเก็บค่าธรรมเนียมฯ แต่อย่างใด และต้องประชาสัมพันธ์ให้เข้าใจไปในแนวทางที่ถูกต้อง
"บอร์ดบริหารจึงได้มีมติเป็นเอกฉันท์ให้ กยท. ดำเนินการปรับปรุงระบบการจัดเก็บค่าธรรมเนียมการส่งออกยางพารา ด้วยการหาผู้สนใจลงทุนมาดำเนินการต่อไป เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพของงาน และให้ตรวจสอบข้อเท็จจริงร่วมกับกรมศุลกากรเพื่อป้องปรามการทุจริต อันอาจก่อความสูญเสียต่อรายได้จากค่าธรรมเนียมฯ ซึ่งต้องนำมาใช้เพื่อประโยชน์เพื่อเกษตรกรชาวสวนยาง สถาบันเกษตรกร และผู้ประกอบกิจการยางพาราต่อไป" นายธีธัชกล่าว