นายเพ็ชร ชั้นเจริญ ผู้อำนวยการท่าอากาศยานภูเก็ต บมจ. ท่าอากาศยานไทย (ทอท. หรือ AOT) ชี้แจงว่า ท่าอากาศยานภูเก็ต (ทภก.) มีความจำเป็นที่จะต้องดำเนินการปิดทางวิ่งเพื่อซ่อมแซมเป็นการเร่งด่วนระหว่างเวลา 02.00 - 07.00 น. ของวันที่ 26 และ 27 ก.พ.เนื่องจากได้ตรวจพบรอยแตกบริเวณหัวทางวิ่ง 09 (หาดไม้ขาว) ประมาณ 9 ตารางเมตร และพบรอยแตกบริเวณรอยต่อระหว่างทางขับสาย G กับทางวิ่ง ขนาด 84 ตารางเมตร โดยรอยแตกดังกล่าวเกิดขึ้นเนื่องจากการใช้งานของปริมาณเที่ยวบินที่มีจำนวนมากในช่วง High season โดยเบื้องต้นพบว่าจะมีสายการบินที่ได้รับผลกระทบ ดังนี้
- วันที่ 26 กุมภาพันธ์ 2561 มีเที่ยวบินที่ได้รับผลกระทบทั้งสิ้น 75 เที่ยวบิน แบ่งเป็นเที่ยวบินขาออก 38 เที่ยวบิน และเที่ยวบินขาเข้า 37 เที่ยวบิน โดยมีอีก 1 เที่ยวบินเช่าเหมาลำเปลี่ยนเส้นทางบินไปยังท่าอากาศยานกระบี่
- วันที่ 27 กุมภาพันธ์ 2561 อาจมีเที่ยวบินที่ได้รับผลกระทบจำนวน 64 เที่ยวบิน แบ่งเป็นเที่ยวบินขาออก 32 เที่ยวบิน และเที่ยวบินขาเข้า 32 เที่ยวบิน
ทั้งนี้ คาดว่าการซ่อมแซม รอยแตกของทางวิ่งดังกล่าวจะแล้วเสร็จและสามารถเปิดใช้งานได้ตามปกติในวันที่ 27 กุมภาพันธ์ 2561 เวลา 07.00 น.
ขณะที่นายดรุณ แสงฉาย อธิบดีกรมท่าอากาศยาน (อทย.) เปิดเผยว่า ได้สั่งการให้ นายอรรถพร เนื่องอุดม ผู้อำนวยการท่าอากาศยานกระบี่ เตรียมความพร้อมรองรับเที่ยวบินนักเที่ยวจากต่างประเทศ ที่ได้รับผลกระทบจากการที่ท่าอากาศยานภูเก็ตปิดและซ่อมแซมรันเวย์ ซึ่งคาดว่าจะมีนักท่องเที่ยวมากกว่า 3,000 คน อาจคิดค้าง ณ ท่าอากาศยานภูเก็ต และให้ท่าอากาศยานกระบี่เตรียมการอำนวยความสะดวกในกรณีที่เที่ยวบินขอเปลี่ยนเที่ยวบินมาลงที่ท่าอากาศยานกระบี่
ทั้งนี้ นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รมว.คมนาคม ได้สั่งการและกำชับให้ ทุกหน่วยงานในกระทรวงคมนาคม ช่วยกันในการดูแลนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ เพื่อป้องกันการเกิดเหตุการณ์ต่างๆ ซึ่งจะส่งผลด้านลบต่อภาพลักษณ์การท่องเที่ยวของประเทศไทย ซึ่งท่าอากาศยานกระบี่ ได้เตรียมความพร้อมในการอำนวยความสะดวก ความปลอดภัย และการดูแลผู้โดยสารไว้เรียบร้อยแล้ว ทั้งในส่วนของตำรวจตรวจคนเข้าเมืองและเจ้าหน้าที่ด่านศุลกากรและส่วนอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง โดยได้ประสานงานเพื่อเพิ่มจำนวนเจ้าหน้าที่ให้มีจำนวนเพียงพอต่อเที่ยวบินดังกล่าว
และในเช้าวันนี้ได้มีเที่ยวบินจากรัสเซีย ที่ขอเปลี่ยนแปลงเที่ยวบินจากท่าอากาศยานภูเก็ต มาทำการบินลงที่ ณ ท่าอากาศยานกระบี่แทน โดยใช้อากาศยานแบบ B 767 – 300 จำนวน 4 เที่ยวบิน ดังนี้
1. เที่ยวบินที่ KAR 2469 เส้นทาง CEK – KBV เวลา 06.55 น. มีผู้โดยสาร จำนวน 302 คน
2. เที่ยวบินที่ KAR 2548 เส้นทาง KBV – ARH เวลา 08.50 น. มีผู้โดยสาร จำนวน 302 คน
3. เที่ยวบินที่ KAR 2501 เส้นทาง KUF – KBV เวลา 07.15 น. มีผู้โดยสาร จำนวน 302 คน
4. เที่ยวบินที่ KAR 2502 เส้นทาง KBV – KUF เวลา 09.15 มีผู้โดยสาร จำนวน 302 คน
ทั้งนี้ กรมท่าอากาศยานพร้อมให้การสนับสนุนกิจการด้านการบินภายใต้นโยบายของกระทรวงคมนาคม หากมีการเปลี่ยนแปลงเส้นทางการบินเพิ่มจากเที่ยวบินดังกล่าว ท่าอากาศยานกระบี่พร้อมที่จะรับรองกับเที่ยวบินต่างๆ เพื่ออำนวยความสะดวกให้นักท่องเที่ยวตลอด 24 ชั่วโมง