นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รมว.คมนาคม เปิดเผยภายหลังเป็นประธานการลงนามบันทึกความเข้าใจว่าด้วยการพัฒนาบุคลากรด้านการบิน ระหว่าง สถาบันการบินพลเรือน (สบพ.) และ AGP Corporation (บริษัทร่วมทุนของญี่ปุ่น ระหว่างบริษัท มิตซูบิชิ สายการบินออลนิปปอน แอร์เวย์ และสายการบิน เจแปน แอร์ไลน์) ว่า เป็นความร่วมมือที่จะผลิตบุคลากรด้านช่างบำรุงรักษาอุปกรณ์ภาคพื้นฯ ซึ่ง AGP มีความเชี่ยวชาญ โดยจะเป็นอีกสาขาที่มีความสำคัญ เป็นผู้ดูแลอุปกรณ์ที่ให้บริการ เช่น สายพานลำเลียง รถขนกระเป๋า โดยปัจจุบันแต่ละสายการบินมีบุคลากรที่ฝึกอบรม และได้มาตรฐานองค์การการบินพลเรือนระหว่างประเทศ (ICAO) อยู่แล้ว
ทั้งนี้ การจัดหลักสูตรเฉพาะเพื่อผลิตบุคลากรเพื่อรองรับความต้องการที่เพิ่มขึ้น ซึ่งจะมีโครงการพัฒนาระเบียงเศรษฐกิจภาคตะวันออก (EEC) ทั้งสนามบินอู่ตะเภา และศูนย์ซ่อมอากาศยาน (MRO) โดยหลักสูตรระยะ 1 ปี รับ ผู้จบ ปวส.ที่จบแล้วสามารถทำงานได้เลย ซึ่งในปัจจุบันไม่มีสถาบันการศึกษาหรือหน่วยงานจัดหลักสูตรด้านช่างบำรุงรักษาอุปกรณ์ภาคพื้นฯ ตามมาตรฐานสากล ถือเป็นครั้งแรกที่ สบพ.ลงนามกับต่างชาติในการร่วมกับผลิตบุคลากรการบินในสาขาด้านนี้ ส่วน บมจ.การบินไทย (THAI) ได้มีการร่วมมือกับ AGP ในการผลิตบุคลากรส่วนอื่นของการบินไทย
ด้าน พล.ร.ต.ปิยะ อาจมุงคุณ ผู้ว่าการสถาบันการบินพลเรือน (สบพ.) กล่าวว่า หลังจากนี้จะหารือในรายละเอียดหลักสูตร ทาง สบพ. จะส่งอาจารย์ไปอบรมที่ AGP เป็นเวลา 6 เดือน จากนั้นจะกำหนดหลักสูตรและเริ่มเปิดรุ่นแรกในปี 2563 หลักสูตรระยะ 1 ปี เริ่มรุ่นแรกจำนวน 60 คน เพื่อให้รองรับความต้องการในปี 2564
ทั้งนี้ สบพ.ได้ดำเนินการปรับปรุงหลักสูตรให้ทันสมัยและครอบคลุมมากขึ้น เปิดโอกาสให้นักศึกษา สบพ.และผู้สำเร็จการศึกษาระดับประกาศนียบัตรวิชาชีพชั้นสูง (ปวส.) ในสาขาที่เกี่ยวข้องจากสถาบันอาชีวศึกษาจากทั่วประเทศ สามารถเข้าศึกษาต่อในหลักสูตรช่างบำรุงรักษาอุปกรณ์ภาคพื้นของ สบพ. ซึ่งมีระยะเวลาฝึกอบรม 1 ปี โดยใช้ผู้สอนและได้รับประกาศนียบัตรจาก สบพ. ส่งผลให้นักศึกษาที่จบหลักสูตรดังกล่าว เป็นบุคลากรที่มีความรู้ความสามารถด้านการบำรุงรักษาอุปกรณ์ภาคพื้นในท่าอากาศยาน ตามความต้องการแรงงานในอุตสาหกรรมการบินมากขึ้น