พล.ท.สรรเสริญ แก้วกำเนิด โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ได้ปรารภถึงกรณีหน่วยงานราชการแสดงความประสงค์ขอใช้ยางพาราน้อย ซึ่งพบว่ามาจากปัญหาที่ติดขัดในแง่ระเบียบหลักเกณฑ์ของสำนักงานตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) และกรมบัญชีกลาง ซึ่งนายกรัฐมนตรีได้มอบหมายให้นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี ไปหารือเพื่อแก้ไขปัญหา และมีข้อสรุปว่าต่อไปนี้หน่วยงานของรัฐสามารถกำหนดรายละเอียดเพิ่มเติมลงไปใน TOR ได้เลยว่าให้บริษัทที่จะมารับงานประมูลของรัฐสามารถซื้อยางจากการยางแห่งประเทศไทย (กยท.) ซึ่ง กยท.จะไปรับซื้อยางใหม่จากเกษตรกร
"อนุญาตให้ซื้อจากองค์กร หรือบริษัทที่รับซื้อยางใหม่จากเกษตรกร แต่ต้องไม่ใช่ยางเก่าในสต็อก โดยให้หน่วยงานรับสามารถกำหนดไว้ใน TOR ได้เลย และไม่ถือว่าเป็นการล็อคสเป็คแต่อย่างใด เพื่อจะทำให้สามารถดูแลราคาหรือพยุงราคายางของเกษตรกรให้อยู่ในราคาที่น่าพอใจ" โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าว
พร้อมระบุว่า ปัจจุบันมีปริมาณยางคงเหลืออยู่ในสต็อกประมาณ 1.4 แสนตัน ส่วนยางเก่าที่มีอยู่ในสต็อกเดิมนั้น ยังไม่มีความจำเป็นต้องนำมาขายหรือใช้ในโครงการของภาครัฐ โดยขอให้เน้นเรื่องการรับซื้อยางใหม่มาใช้ก่อน ส่วนยางเก่าในสต็อกจะนำออกมาขายเมื่อใดนั้นจะพิจารณาเวลาที่เหมาะสมต่อไป เพื่อไม่ให้มีผลกระทบต่อราคายางใหม่ของเกษตรกร
พล.ท.สรรเสริญ กล่าวว่า ส่วนที่มีข้อสังเกตว่าองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น (อปท.) มียอดการใช้ยางน้อยกว่าที่คาดไปมากนั้น นายกรัฐมนตรีจึงมีข้อสั่งการให้กรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น และคณะกรรมการกระจายอำนาจไปสู่ระดับท้องถิ่น ลงไปพูดคุยกับ อปท. ว่าต้องขานรับนโยบายของรัฐในการจัดซื้อจัดหายางจากเกษตรกรมากกว่านี้
"ไม่ว่าจะประมูลงานอะไร หรือบริษัทใดมาประมูลงาน ควรเพิ่มลงไปใน TOR ด้วย จะได้ตอบรับนโยบายของรัฐ ซึ่งถือว่าได้ข้อสรุปทั้งการแก้ปัญหาและข้อสั่งการตามข้อสังเกตของนายกรัฐมนตรี" พล.ท.สรรเสริญระบุ