น.ส.กัณญภัค ตันติพิพัฒน์พงศ์ ประธานสภาผู้ส่งสินค้าออกทางเรือแห่งประเทศไทย (สรท.) หรือสภาผู้ส่งออก ยังคงคาดการณ์เป้าหมายการส่งออกของไทยในปี 61 อยู่ที่ 5.5% แม้ว่ายอดส่งออกในเดือน ม.ค.61 ขยายตัว 17.6% (ขยายตัวสูงสุดในรอบ 5 ปี 2 เดือน) เมื่อเทียบกับเดือนเดียวกันของปีก่อน (YoY)
ขระที่การนำเข้าในเดือนม.ค.61 ขยายตัว 24.3% (YoY) ส่งผลให้ไทยขาดดุลการค้า 119 ล้านดอลลาร์สรอ. การขาดุลดังกล่าวมีสาเหตุจากการนำเข้าสินค้าทุนและวัตถุดิบในปริมาณมาก ซึ่งถือเป็นการใช้ประโยชน์จากการแข็งค่าของเงินบาท และเพื่อเป็นการควบคุมต้นทุนและส่งเสริมศักยภาพภาคการผลิตในระยะยาว
สำหรับปัจจัยเสี่ยงสำคัญของการส่งออกที่ต้องเร่งแก้ไขและต้องติดตามใกล้ชิด ประกอบด้วย ค่าเงินดอลลาร์สรอ.ที่ยังคงมีแนวโน้มอ่อนค่าต่อเนื่อง ส่งผลให้เงินบาทแข็งค่าขึ้น, มาตรการกีดกันทางการค้าของสหรัฐฯ และการตอบโต้ของประเทศคู่ค้าที่มีความเข้มข้นมากขึ้น โดยเฉพาะนโยบาย America First ซึ่งปัจจุบันมีสินค้ากว่า 4 ประเภทของไทยที่ได้รับผลกระทบแล้ว เช่น การเพิ่มภาษีนำเข้าเครื่องซักผ้า แผงพลังงานแสงอาทิตย์ เหล้กและอลูมิเนียม ยางรัด และมีแนวโน้มจะเพิ่มรายการสินค้าขึ้นในอนาคต, ปัญหาด้านโลจิสติกส์การค้าระหว่างประเทศ อาทิ การขาดแคลนตู้สินค้า ความแออัดของท่าเรือกรุงเทพ การจรจาเข้าสู่ท่าเรือแหลมฉบัง เป็นต้น นายคงฤทธิ์ จันทริก ผู้อำนวยการบริหาร สรท. กล่าวว่า สถานการณ์ค่าเงินบาทที่ระดับ 31.46 บาท/ดอลลาร์ แข็งค่าขึ้นมา 2.51% Year-to-Date หรือกว่า 11% Year-to-Year ขณะที่ค่าเงินของประเทศเพื่อนแข็งค่าน้อยกว่าเงินบาท ดังนั้นเรื่องอัตราแลกเปลี่ยนยังคงเป็นประเด็นที่ต้องจับตาต่อไปอย่างต่อเนื่อง และเชื่อว่าจะส่งผลกระทบต่อการส่งออก