นางจันทิรา ยิมเรวัต วิวัฒน์รัตน์ อธิบดีกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ เปิดเผยว่า กรมฯ จับมือผู้ประกอบการชั้นนำจากอุตสาหกรรมภาพยนตร์ไทยจำนวน 23 บริษัทเข้าร่วมงาน Thai Night-Thailand Where Films Come Alive 2018 เพื่อกระตุ้นอุตสาหกรรมภาพยนตร์ โดยเฉพาะภาพยนตร์แอคชั่นของไทยให้เป็นที่รู้จักแพร่หลายในฮ่องกงและต่างประเทศ คาดว่าจะนำเม็ดเงินเข้าไทยจำนวนมหาศาล
"กิจกรรม Thai Night Hong Kong 2018 จัดขึ้นเป็นครั้งแรกในฮ่องกงในวันที่ 20 มีนาคม 2561 โดยกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ กระทรวงพาณิชย์ ภายใต้ธีม "The Art of Action" เนื่องจากภาพยนตร์แอคชั่นของไทย เป็นที่รู้จักอย่างแพร่หลายในฮ่องกงและระดับนานาชาติ" นางจันทิรา กล่าว
โดยภายในงาน Thai Night Hong Kong 2018 ผู้ประกอบการธุรกิจภาพยนตร์จากฝั่งเอเชียและนานาชาติ จะได้พบปะพูดคุยเพื่อแลกเปลี่ยนประสบการณ์และสร้างความสัมพันธ์ที่จะนำไปสู่ความร่วมมือครั้งใหม่ในวงการภาพยนตร์ อีกทั้งในงานครั้งนี้ ผู้เข้าร่วมงานจะได้ชมการแสดงสื่อผสม "The Art of Action" ที่แสดงให้เห็นศาสตร์การต่อสู้อันเป็นเอกลักษณ์ของชาติไทย และร่วมฟังการเสวนาเกี่ยวกับความพร้อมของประเทศไทยในการให้บริการด้านสถานที่ถ่ายทำ การบริการด้าน Production และ Post-production จากบุคลากรชั้น แนวหน้าในวงการภาพยนตร์จากฮ่องกง จีน และประเทศไทย
นางจันทิรา กล่าวว่า หลังจากภาพยนตร์แอคชั่นของไทยอย่างองก์บากและต้มยำกุ้งได้ทำให้ทั่วโลกรู้จักกับภาพยนตร์แอคชั่นของไทย นักแสดงนำอย่าง จา พนม ได้มีโอกาสร่วมแสดงในภาพยนตร์ฮอลลีวูด ซึ่งเป็นที่รู้จักทั่วโลก เช่น เรื่อง Fast 7, xXx The Return of Sande Cage ซึ่งเป็นภาพยนตร์ที่ทำเงินทั่วโลกมากกว่า 1.6 พันล้านเหรียญสหรัฐ นอกจากนั้น จา พนม ได้มีผลงานร่วมกับทีมภาพยนตร์ฝั่งเอเชียในเรื่อง Paradox ซึ่งเป็นภาค 3 ของภาพยนตร์แอคชั่นไตรภาคชั้นนำในจีนและฮ่องกง Sha Po Lang (SPL)
นางจันทิรา กล่าวว่า เมื่อต้นปี 2018 ภาพยนตร์อนิเมชั่นฝีมือคนไทยที่นำเอาศาสตร์มวยไทยมาเป็นจุดขายอย่าง ‘9 ศาสตรา’ สามารถทำเงินภายในประเทศไทยได้กว่า 100 ล้านบาท ซึ่งภาพยนตร์อนิเมชั่นเรื่องนี้เป็นที่สนใจแก่ผู้ซื้อภาพยนตร์จากหลายประเทศ รวมถึงประเทศจีนอีกด้วย
นอกจากนี้ ยังมีภาพยนตร์ประเภทอื่นนอกเหนือจากภาพยนตร์แอคชั่นที่สามารถทำชื่อเสียงในตลาดต่างประเทศได้ในปีที่ผ่านมา โดยภาพยนตร์ดราม่าของ ‘นัฐวุฒิ พูนพิริยะ’ เรื่อง ฉลาดเกมส์โกง (Bad Genius) นั้น นอกจากจะทำรายได้ในประเทศไทยกว่า 100 ล้านบาทแล้ว ยังสามารถทำเงินในตลาดเอเชียโดยเฉพาะในประเทศจีน และติดอันดับ Top 5 ใน Box office ของประเทศจีนได้ถึง 2 สัปดาห์ รวมถึงกวาดรางวัลในระดับนานาชาติมากมาย เช่น รางวัล Best Feature จาก New York Asian Film Festival และ รางวัล Best Director จาก Fantasia International FilmFestival ไม่เพียงเท่านี้ นักแสดงนำหญิงของเรื่องอย่าง ‘ออกแบบ ชุติมณฑน์’ ก็ได้คว้ารางวัล Screen International Rising Star Asia Award จาก New York Asian Film Festival มาอีกด้วย
สำหรับผู้ประกอบการชั้นนำจากอุตสาหกรรมภาพยนตร์ไทยจำนวน 23 บริษัทที่เข้าร่วมงาน ประกอบด้วย 1.ด้านผู้ผลิตและจัดจำหน่ายภาพยนตร์และแอนิเมชั่น จำนวน 7 บริษัท ได้แก่ บริษัท สหมงคลฟิล์ม อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด, บริษัท จีดีเอช ห้าห้าเก้า จำกัด, บริษัท เอ็ม พิคเจอร์ส จำกัด, บริษัท ไร้ท์ บิยอนด์ จำกัด,บริษัท สตูดิโอ อารมณ์ดี จำกัด, บริษัท ฮอลลีวู้ด (ไทยแลนด์) จำกัด, บริษัท พีรามิด แอนด์ แอล.เอช จำกัด
2.ด้านบริการเกี่ยวเนื่องกับภาพยนตร์และวีดิทัศน์ จำนวน 9 บริษัท ได้แก่ บริษัท เบนีโทน ฟิล์มส์ จำกัด,บริษัท ฟิล์มเฟรม โปรดักชั่นส์ จำกัด , บริษัท กันตนา โพสต์ โปรดักชั่น (ไทยแลนด์) จำกัด, บริษัท เดอะ สตูดิโอ พาร์ค (ประเทศไทย) จำกัด, บริษัท เอ็กซ์ฮาบิชั่น จำกัด , บริษัท อิ๊กดราซิล กรุ๊ป จำกัด, บริษัท สตูดิโอ 28 จำกัด, บริษัท จีทูดี จำกัด,บริษัท เดอะมั้งค์ สตูดิโอ จำกัด
3.ด้านผู้ผลิตรายการและละครโทรทัศน์ จำนวน 3 บริษัท ได้แก่ บริษัทเวิร์คพอยท์ เอ็นเทอร์เทนเมนท์ จำกัด (มหาชน) , บริษัท บีอีซี เวิลด์ จำกัด (มหาชน), บริษัท เฮโล โปรดักส์ชั่น จำกัด 4.ผู้ผลิตตภาพยนตร์สารคดีไทย จำนวน 4 บริษัท ได้แก่ บริษัท ทีวีบูรพา จำกัด, บริษัท ดอคคิวเมเนีย จำกัด, บริษัท วิชเทรนด์ ประเทศไทย จำกัด, บริษัท วันดี มีเดีย จำกัด