นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี ฝ่ายเศรษฐกิจ เปิดเผยภายหลัง Ms. Angel Zhao Head of Globalization Leadership Group คณะผู้บริหารบริษัท อาลีบาบา กรุ๊ป เข้าพบว่า ทางอาลีบาบา ยืนยัน จะเข้ามาลงทุนในไทย ซึ่งได้รับคำยืนยันจากนายแจ็ค หม่า ผู้ก่อตั้งและประธานบริหารของอาลีบาบาที่ยกให้ไทยเป็นศูนย์กลางในภูมิภาค และจะตัดสินใจเลือกพื้นที่เพื่อทำเป็น Startup Digital Hub CLMVT ให้จบภายในเดือนมีนาคมนี้ พร้อมทั้งจะเชิญนายแจ็ค หม่า มาไทยเพื่อเปิดตัวโครงการด้วย
ซึ่งทางอาลีบาบา ได้ยื่นข้อเสนอที่ต้องการเข้ามาดำเนินการใน 4 โครงการ ประกอบด้วย 1.ด้านเอสเอ็มอีไปสู่ดิจิทัล โดยมอบหมายให้นายอุตตม สาวนายน รมว.อุตสาหกรรมรับไปดำเนินการและประสานกับภาคอุตสาหกรรมในแต่ละพื้นที่ 2.ด้านการเกษตร พัฒนาไปสู่การทำอีคอมเมิร์ช โดยทางอาลีบาบาพร้อมนำโมเดลที่เคยช่วยเหลือรัฐบาลจีนมาเป็นต้นแบบในการพัฒนาเกษตรของไทย 3.ด้านสตาร์ทอัพ ซึ่งต้องการที่จะประสานกับมหาวิทยาลัยของรัฐ ส่งเสริมด้านเทคโนโลยีเพื่อสร้างบุคลากรและธุรกิจใหม่ๆ ที่ใช้ดิจิทัลเป็นหลัก และ 4.ด้านการท่องเที่ยว ทางอาลีบาบาพร้อมเข้ามาช่วยโปรโมตแหล่งท่องเที่ยงของไทย และดึงดูดนักท่องเที่ยวเข้ามาเที่ยวในเมืองรองมากขึ้น ซึ่งจะสอดรับกับโครงการไทยแลนด์ริเวียร่าด้วย
นอกจากนี้ นายสมคิด ได้เชิญชวนให้อาลีบาบามาจัดตั้งสถาบันการศึกษาในไทย เพื่อช่วยพัฒนาบุคลากรด้านดิจิทัล ด้านอีคอมเมิร์ซและส่งเสริมผู้ประกอบการสตาร์ทอัพ
นายสมคิด เชื่อว่า หลังจากที่อาลีบาบาตัดสินใจจะเข้ามาลงทุนในไทย จะมีส่วนช่วยในการส่งเสริมภาพลักษณ์ของไทย และเชื่อว่า บริษัทยักษ์ใหญ่อื่นๆก็จะเข้ามาลงทุนในไทยเพิ่มขึ้นอีกด้วย
ด้านนายอุตตม กล่าวว่า อาลีบาบา สนใจเข้ามาสร้าง Digital Hub ในพื้นที่พัฒนาระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก (EEC) พัฒนาคนและพัฒนาโครงสร้างสมาร์ทโลจิสติกส์ สมัยใหม่ ที่จะส่งเสริมให้มีทักษะในการค้าขายออนไลน์ การสร้างความเข้มแข็งให้กับผู้ประกอบการรายย่อยให้สามารถเข้าถึงการตลาดระดับโลกได้
พร้อมกันนี้ อาลีบาบาต้องการเข้ามาช่วยในการพัฒนาบุคลากรและผู้ประกอบการ เน้นในส่วนของเอสเอ็มอี และสตาร์ทอัพในระดับพื้นที่และชุมชน ซึ่งจะมีการทำงานร่วมกันทั้งจากทีมงานของอาลีบาบากับกระทรวงอุตสาหกรรม กระทรวงพาณิชย์ และกระทรวงวิทยาศาตร์และเทคโนโลยี