นายพิบูลย์ฤทธิ์ วิริยะผล ผู้อำนวยการศูนย์วิจัยทองคำ เปิดเผยว่า ดัชนีความเชื่อมั่นราคาทองคำประจำเดือน มี.ค.61 ปรับลดลงแรงจากเมื่อเดือน ก.พ.มาอยู่ที่ระดับ 45.28 จุด ลดลง 22.11 จุด หรือคิดเป็น 32.81% โดยนักลงทุนคาดว่าราคาทองคำที่ปรับลดลงมามีปัจจัยหลักจากความกังวลในนโยบายทางการเงินของธนาคารกลางสหรัฐฯ (FED)
จากกลุ่มตัวอย่างจำนวน 285 ตัวอย่าง พบว่า 52.98% ของกลุ่มตัวอย่าง คาดว่าจะซื้อทองคำในช่วงเดือน มี.ค.61 ขณะที่ 27.37% ยังไม่แน่ใจว่าจะซื้อทองคำหรือไม่ ส่วนอีก 19.65% คาดว่าจะไม่ซื้อทองคำในช่วงเดือน มี.8.61 จะเห็นได้ว่ากลุ่มตัวอย่างที่คาดว่าจะซื้อทองคำปรับเพิ่มขึ้นที่ 7.42% จากเมื่อเดือน ก.พ.61
ขณะที่กลุ่มตัวอย่างที่เป็นผู้ประกอบกิจการค้าทองคำรายใหญ่ และผู้ประกอบกิจการนายหน้าซื้อขายสัญญาซื้อขายล่วงหน้าที่อ้างอิงกับราคาทองคำ จำนวน 9 ตัวอย่าง โดยส่วนใหญ่เชื่อว่าราคาทองคำจะใกล้เคียงกับราคาทองในเดือน ก.พ.61 จำนวน 4 ราย และคาดว่าทองคำจะลดลงมีจำนวน 3 ราย ส่วนคาดว่าราคาทองคำจะเพิ่มขึ้นจำนวน 2 ราย
สำหรับการคาดการณ์ราคาทองเดือน มี.ค.61 ของผู้ประกอบกิจการค้าทองคำรายใหญ่มีมุมมองดังนี้ Gold Spot ให้กรอบราคาบริเวณ 1,281-1,380 ดอลลาร์สหรัฐฯต่อออนซ์ ด้านราคาทองคำแท่งในประเทศ ความบริสุทธิ์ 96.5% ให้กรอบบริเวณ 19,001-20,500 บาท ต่อน้ำหนัก 1 บาททองคำ และด้านค่าเงินบาทให้กรอบบริเวณ 31.01-31.80 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐฯ สำหรับปัจจัยที่ต้องติดตาม ได้แก่ นโยบายทางการเงินของ FED , นโยบายเศรษฐกิจของประธานาธิบดีสหรัฐฯ, ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐฯ และค่าเงินบาท
"ราคาทองให้น้ำหนักกับผลการประชุมของเฟดในกลางเดือนมี.ค.นี้ ซึ่งมีความเป็นไปได้ที่ราคาทองคำในตลาดโลกจะปรับตัวลดลง จึงขอให้นักลงทุนติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด โดยราคาทองคำนิวยอร์ก มีแนวรับสำคัญที่ระดับ 1,300 ดอลลารสหรัฐฯต่อทรอยออนซ์ และแนวต้านสำคัญที่ระดับ 1,350 ดอลลาร์สหรัฐฯต่อทรอยออนซ์"