นายไพบูลย์ อมรภิญโญเกียรติ นักกฎหมายผู้เชี่ยวชาญกฎหมายไอที กล่าวถึงกรณีศาลปกครองมีคำพิพากษาคดีที่บริษัทไทยทีวี ฟ้องคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) ออกคำสั่งโดยไม่ชอบด้วยกฎหมายในการเพิกถอนใบอนุญาตประกอบกิจการทีวีดิจิทัล และให้ชำระค่าธรรมเนียมใบอนุญาตว่า คดีคงมีการอุทธรณ์จากทางกสทช. ดังนั้นขั้นตอนการพิจารณาน่าจะใช้เวลานานอีก 1-2 ปีจนกว่าคดีจะถึงที่สุด
อย่งไรก็ตาม ขณะนี้ทราบว่า ทางผู้ประกอบการได้เตรียมการแล้วสำหรับการดำเนินการทางกฎหมาย สำหรับค่าเสียหายน่าจะแบ่งเป็น 2 ช่วง คือ ช่วงที่ไม่สามารถให้บริการได้ตามที่กสทช.สัญญาไว้ กับช่วงที่เอกชนเกิดความเสียหาย ซึ่งในส่วนนี้ผู้ประกอบการต้องมาพิสูจน์ว่าความเสียหายที่มาจากการที่ กสทช.ไม่ทำตามสัญญา ทำให้เกิดความเสียหายอย่างไร คงต้องคอยดูว่ารัฐบาลกับกสทช. จะตัดสินใจทำอย่างไร
สำหรับการอุทธรณ์คดีตามความเห็นส่วนตัวนั้น โอกาสที่ศาลจะกลับคำพิพากษาในส่วนคำวินิจฉัยที่ กสทช.ไม่ปฎิบัติตามสัญญา คงไม่น่าจะเปลี่ยนแปลง ส่วนประเด็นค่าเสียหายอาจจะมีการกลับคำวินิจฉัยได้ เพราะกสทช.ผิดสัญญาที่ให้ไว้กับเอกชน ส่วนนี้น่าจะทำให้ กสทช.หนักใจ
พร้อมระบุว่า การขอคืนใบอนุญาต น่าจะเกิดขึ้นกับผู้ประกอบการจำนวนหนึ่ง โดยสุดท้ายคาดว่าจะเหลือผู้ประกอบการประมาณ 7-8 ราย
"คำพิพากษาคดีนี้ จะเป็นจุดเปลี่ยนของอุตสาหกรรมทีวีดิจิทัล โดยผู้ประกอบการหลายช่องน่าจะนำมาเป็นเงื่อนในการขอคืนใบอนุญาต ปัญหาจึงไปอยู่ที่รัฐบาล และ กสทช.ว่าจะมีเงินเพียงพอที่จะรองรับการเรียกร้องความเสียหายจากผู้ประกอบการหรือไม่ เนื่องจากความเสียหายที่เกิดขึ้นมีระยะเวลาประมาณ 3-4 ปี แม้การขอคืนใบอนุญาตจะไม่สามารถเรียกร้องค่าธรรมเนียมที่จ่ายไปแล้วกลับคืน แต่ยังมีค่าธรรมเนียมส่วนที่ยังไม่ได้ชำระอีกจำนวนมาก"