นายคณิศ แสงสุพรรณ เลขาธิการคณะกรรมการนโยบายการพัฒนาระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก (EEC) คาดปีนี้จะมีนักลงทุนทั้งไทยและต่างประเทศยื่นขอรับการส่งเสริมการลงทุนกับสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมลงทุน (BOI) ประมาณ 3 แสนล้านบาท เพิ่มจากปีที่แล้วราว 1 แสนล้านบาท ซึ่งมากกว่าที่คาดการณ์ไว้ และคาดว่าในช่วง 5 ปีข้างหน้าจะมีเม็ดเงินลงทุนราว 6 แสนล้านบาท ในการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน คาดว่าจะมีส่วนที่จะผลักดันเศรษฐกิจไทย (GDP) เติบโตถึง 5% จาก 3.9% ในปี60
"ถ้าการลงทุน(ภาครัฐ) มาเร็วก็ช่วยให้ GDP ขึ้นเป็น 5% ได้ ... ในช่วง 5 ปีแรกจะเห็นความก้าวหน้าโครงสร้างพื้นฐาน อย่างรถไฟความเร็วสูง สนามบินอู่ตะเภา ซึ่งทั้งสองโครงการจะเสร็จพร้อมกัน " นายคณิศ กล่าว
โดยโครงการ PPP ในพื้นที่ EEC มีอยู่ 5 โครงการ ได้แก่ ศูนย์ซ่อมบำรุงอากาศยาน คาดเปิดปี 64, โครงการรถไฟความเร็วสูงเชื่อม 3 สนามบิน จะเปิดดำเนินการ ปี 66, ท่าอากาศยานอู่ตะเภา เปิดดำเนินการปี 66, ท่าเรืออุตสาหกรรมมาบตาพุด คาดเปิดดำเนินการปี 67 และท่าเรือแหลมฉบัง ระยะที่ 3 คาดเปิดดำเนินการในปี 68
เลขาธิการ EEC กล่าวว่า นอกจากนี้ เตรียมเดินทางไปโรดโชว์ที่จีน ญี่ปุ่น และยุโรป ในช่วงเดือน มี.ค.- พ.ค.นี้ ซึ่งนักลงทุนจีนจะเป็นนักลงทุนหน้าใหม่ที่ให้ความสนใจเข้ามาลงทุน EEC มาก รวมทั้งบริษัทจากญี่ปุ่นที่เป็นรายใหม่