น.ส.กุลยา ตันติเตมิท ผู้ตรวจราชการกระทรวงการคลัง ในฐานะโฆษกกระทรวงการคลัง เปิดเผยผลการจัดเก็บรายได้รัฐบาลสุทธิในช่วง 5 เดือนแรกของปีงบประมาณ 2561 (ตุลาคม 2560 – กุมภาพันธ์ 2561) ว่า รัฐบาลจัดเก็บรายได้สุทธิ จำนวน 908,210 ล้านบาท สูงกว่าประมาณการตามเอกสารงบประมาณ 39,440 ล้านบาท หรือ 4.5%
สาเหตุจากการนำส่งรายได้ของรัฐวิสาหกิจ และการจัดเก็บรายได้ของหน่วยงานอื่น สูงกว่าประมาณการ 14,898 และ 14,884 ล้านบาท หรือ 30.0% และ 18.8% ตามลำดับ โดยภาษีที่จัดเก็บได้สูงกว่าเป้าหมายที่สำคัญ ได้แก่ ภาษีเงินได้ปิโตรเลียม ภาษีรถยนต์ และรายได้อื่นของกรมสรรพสามิตที่จัดเก็บได้สูงกว่าประมาณการ 5,943 3,750 และ 1,906 ล้านบาท หรือ 283.0% 8.9% และ 394.6% ตามลำดับ"
"การจัดเก็บรายได้ในช่วง 5 เดือนแรกของปีงบประมาณ 2561 ยังคงสูงกว่าเป้าหมาย นอกจากนี้ การดำเนินนโยบายเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจอย่างต่อเนื่องของรัฐบาล ทำให้การบริโภคและการนำเข้ายังคงขยายตัว ซึ่งเป็นสัญญาณที่ดีต่อการจัดเก็บรายได้ในช่วงที่เหลือของปีงบประมาณ"น.ส.กุลยา กล่าว
ในส่วนของกรมสรรพากร จัดเก็บรายได้รวม 635,576 ล้านบาท ต่ำกว่าประมาณการ 2,598 ล้านบาท หรือ 0.4% (สูงกว่าช่วงเดียวกันปีที่แล้วร้อยละ 3.3) โดยภาษีที่จัดเก็บได้ต่ำกว่าประมาณการที่สำคัญ ได้แก่ ภาษีมูลค่าเพิ่ม และภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาที่จัดเก็บได้ต่ำกว่าประมาณการ 6,652 และ 1,997 ล้านบาท หรือคิดเป็น 2.0% (สูงกว่าช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว 6.7%) และ 1.6% (ต่ำกว่าช่วงเดียวกันปีที่แล้ว 4.9%) ตามลำดับ อย่างไรก็ดี ภาษีเงินได้ปิโตรเลียมจัดเก็บได้สูงกว่าประมาณการ 5,943 ล้านบาท หรือ 283.0% (สูงกว่าช่วงเดียวกันปีที่แล้ว 325.3%)
กรมสรรพสามิต จัดเก็บรายได้รวม 220,395 ล้านบาท สูงกว่าประมาณการ 274 ล้านบาท หรือ 0.1% (ต่ำกว่าช่วงเดียวกันปีที่แล้ว1.0%) โดยภาษีที่จัดเก็บได้สูงกว่าประมาณการ ได้แก่ ภาษีรถยนต์จัดเก็บได้สูงกว่าประมาณการ 3,750 ล้านบาท หรือ 8.9% (สูงกว่าช่วงเดียวกันปีที่แล้ว 22.3%) เนื่องจากปริมาณรถยนต์ที่ชำระภาษีสูงกว่าที่ประมาณการไว้ รายได้อื่นของกรมสรรพสามิตจัดเก็บได้สูงกว่าประมาณการ 1,906 ล้านบาท หรือ 394.6% (สูงกว่าช่วงเดียวกันปีที่แล้ว 371.2%) เนื่องจากการนำส่งเงินค่าใช้จ่ายจัดเก็บภาษีท้องถิ่นคืนเป็นรายได้แผ่นดิน และภาษียาสูบ จัดเก็บได้สูงกว่าประมาณการ 1,871 ล้านบาท หรือ 7.3% (ต่ำกว่าช่วงเดียวกันปีที่แล้วร้อยละ 1.7) อย่างไรก็ดี ภาษีน้ำมันฯ และภาษีเบียร์ จัดเก็บได้ต่ำกว่าประมาณการ 4,652 และ 2,204 ล้านบาท หรือคิดเป็น 5.4% และ 7.4% ตามลำดับ
กรมศุลกากร จัดเก็บรายได้รวม 46,078 ล้านบาท ต่ำกว่าประมาณการ 922 ล้านบาท หรือ 2.0% (สูงกว่าช่วงเดียวกันปีที่แล้ว 9.1%) โดยเป็นผลจากการจัดเก็บอากรขาเข้าต่ำกว่าประมาณการจำนวน 1,306 ล้านบาท หรือ 2.8% (สูงกว่าช่วงเดียวกันปีที่แล้ว 8.7%) เนื่องจากการนำเข้าสินค้าที่ใช้สิทธิพิเศษทางภาษีมีแนวโน้มสูงขึ้น ทำให้การจัดเก็บอากรขาเข้าไม่ขยายตัวตามที่ประมาณการไว้ ทั้งนี้ มูลค่าการนำเข้าในรูปดอลลาร์สหรัฐ และในรูปเงินบาทในช่วง 4 เดือนแรกของปีงบประมาณ 2561 ขยายตัว 16.9% และ 9.1% ตามลำดับ และสินค้าที่จัดเก็บอากรขาเข้าในช่วง 3 เดือนแรกได้สูงสุด 5 อันดับแรก ได้แก่ (1) ยานบกและส่วนประกอบ (2) เครื่องใช้ไฟฟ้าและอุปกรณ์ (3) เครื่องจักรและเครื่องใช้กล (4) ผลิตภัณฑ์ทางเภสัชกรรม และ (5) ของทำด้วยเหล็กหรือเหล็กกล้า
รัฐวิสาหกิจ นำส่งรายได้รวม 64,560 ล้านบาท สูงกว่าประมาณการ 14,898 ล้านบาท หรือ 30.0% (สูงกว่าช่วงเดียวกันปีที่แล้ว 3.2%) โดยรัฐวิสาหกิจที่นำส่งรายได้สูงกว่าประมาณการ 5 อันดับแรก ได้แก่ (1) สำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล (2) การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (3) กองทุนรวมวายุภักษ์ (4) บมจ. ท่าอากาศยานไทย และ (5) การทางพิเศษแห่งประเทศไทย
หน่วยงานอื่น จัดเก็บรายได้รวม 94,037 ล้านบาท สูงกว่าประมาณการ 14,884 ล้านบาท หรือ 18.8% (สูงกว่าช่วงเดียวกันปีที่แล้ว13.8%) เนื่องจากการรับรู้ส่วนเกินจากการจำหน่ายพันธบัตร (Premium) เป็นรายได้แผ่นดิน การส่งคืนเงินกันชดเชยให้แก่ผู้ส่งออกเป็นรายได้แผ่นดินสูงกว่าประมาณการ และการนำส่งรายได้จากการประมูลใบอนุญาตให้ใช้คลื่นความถี่เพื่อประกอบกิจการโทรคมนาคมย่าน 1800 MHz สูงกว่าประมาณการ
สำหรับกรมธนารักษ์จัดเก็บรายได้รวม 4,257 ล้านบาท สูงกว่าประมาณการ 366 ล้านบาท หรือ 9.4% (สูงกว่าช่วงเดียวกันปีที่แล้ว 5.3%) โดยรายได้ด้านที่ราชพัสดุจัดเก็บได้สูงกว่าประมาณการ การคืนภาษีของกรมสรรพากร จำนวน 116,029 ล้านบาท ต่ำกว่าประมาณการ 13,636 ล้านบาท หรือ 10.5% ประกอบด้วยการคืนภาษีมูลค่าเพิ่ม 96,229 ล้านบาท ต่ำกว่าประมาณการ 15,371 ล้านบาท หรือ 13.8% และการคืนภาษีอื่น ๆ (ภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา ภาษีเงินได้นิติบุคคล ภาษีธุรกิจเฉพาะ และอากรแสตมป์) จำนวน 19,800 ล้านบาท สูงกว่าประมาณการ 1,735 ล้านบาท หรือ 9.6%
อากรถอนคืนกรมศุลกากร จำนวน 6,822 ล้านบาท สูงกว่าประมาณการ 2,622 ล้านบาท หรือ 62.4% การจัดสรรภาษีมูลค่าเพิ่มให้กับองค์การบริหารส่วนจังหวัด จำนวน 6,913 ล้านบาท ต่ำกว่าประมาณการ 393 ล้านบาท หรือ 5.4% เงินกันชดเชยภาษีสำหรับสินค้าส่งออก จำนวน 4,405 ล้านบาท ต่ำกว่าประมาณการ 2,464 ล้านบาท หรือ 35.9% เป็นผลจากการปรับลดอัตราเงินกันชดเชยภาษีสำหรับสินค้าส่งออกจาก 0.75% เป็น 0.5% ตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม 2560 เป็นต้นมา การจัดสรรภาษีมูลค่าเพิ่มให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ตาม พ.ร.บ. กำหนดแผนและขั้นตอนการกระจายอำนาจฯ งวดที่ 2 จำนวน 18,267 ล้านบาท สูงกว่าประมาณการ 967 ล้านบาท หรือ 5.6%
สำหรับในเดือน ก.พ.61 รัฐบาลจัดเก็บรายได้สุทธิ 169,621 ล้านบาท สูงกว่าประมาณการ 10,816 ล้านบาท หรือ 6.8% (สูงกว่าเดือนเดียวกันปีที่แล้ว 8.5%) โดยการจัดเก็บรายได้ของกรมสรรพากร การจัดเก็บรายได้ของหน่วยงานอื่น และการนำส่งรายได้ของรัฐวิสาหกิจสูงกว่าประมาณการ 3,802 2,072 และ 1,904 ล้านบาท หรือ 3.1% 26.4% และ 15.9% ตามลำดับ
สำหรับรายได้ที่จัดเก็บสูงกว่าประมาณการที่สำคัญ ได้แก่ การจัดเก็บภาษีเงินได้ปิโตรเลียมสูงกว่าประมาณการ 6,401 ล้านบาท หรือ 512.1% (สูงกว่าเดือนเดียวกันปีที่แล้ว 624.5%) ส่วนหนึ่งเป็นผลจากการชำระภาษีเงินได้ปิโตรเลียมย้อนหลัง และผลประกอบการของบริษัทขุดเจาะน้ำมันที่ปรับตัวดีขึ้น การจัดเก็บภาษีรถยนต์สูงกว่าประมาณการ 1,539 ล้านบาท หรือ 18.5% (สูงกว่าเดือนเดียวกันปีที่แล้ว 40.1%) เนื่องจากปริมาณรถยนต์ที่ชำระภาษีสูงกว่าที่ประมาณการไว้ และการจัดเก็บภาษียาสูบสูงกว่าประมาณการ 1,366 ล้านบาท หรือ 24.7% (สูงกว่าเดือนเดียวกันปีที่แล้ว 17.0%)