นายสัตวแพทย์อภัย สุทธิสังข์ อธิบดีกรมปศุสัตว์ เปิดเผยว่า สำนักงานการขึ้นทะเบียนหรือรับรองแห่งสาธารณรัฐประชาชนจีน (CNCA) ได้ประกาศรับรองให้โรงงานผลิตและแปรรูปเนื้อไก่ของไทยเป็นครั้งแรก จำนวน 7 โรงงาน โดยคาดว่าการส่งออกของทั้ง 7 โรงงานนี้ จะสร้างรายได้ประมาณ 7,000 ล้านบาทต่อปี แต่ถ้าจีนรับรองโรงงานครบทั้ง 19 แห่งที่ได้เข้ามาตรวจสอบ จะสร้างรายได้ประมาณ 2 หมื่นล้านบาทต่อปี ซึ่งภาคอุตสาหกรรมไก่ของไทยมีความพร้อมเต็มที่ในการส่งออกเนื้อไก่ไปทั้งตลาดจีนและตลาดอื่นๆของโลก
"ถือเป็นข่าวดีของประเทศไทยที่สามารถส่งออกเนื้อไก่ไปสู่ผู้บริโภคชาวจีน ซึ่งเป็นตลาดใหญ่ที่มีศักยภาพ เนื่องจากมีความต้องการบริโภคเนื้อไก่เป็นจำนวนมาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งการบริโภคสินค้าที่เป็น By Product อาทิ เครื่องในและเท้าไก่" นายสัตวแพทย์อภัย กล่าว
สำหรับ 7 โรงงานดังกล่าว ประกอบด้วย โรงงานของ CPF ที่ จ.นครราชสีมา, โรงงานของ CPF ที่ จ.สระบุรี, โรงงานของ F&F Food ที่ จ.สุพรรณบุรี, โรงงานของ GFPT ที่ จ.สมุทรสาคร, โรงงานของบริษัท สหฟาร์ม ที่ จ.ลพบุรี, โรงงานของ Goldenline ที่ จ.เพชรบูรณ์ และโรงงานของ Thai Foods Group ที่ จ.ปราจีนบุรี
ด้านนายสัตวแพทย์สมชวน รัตนมังคลานนท์ รองอธิบดีฯ และโฆษกกรมปศุสัตว์ กล่าวว่า การที่จีนเปิดนำเข้าเนื้อไก่และชิ้นส่วนไก่ของไทย ถือเป็นโอกาสที่สำคัญยิ่งของอุตสาหกรรมไก่เนื้อและผู้ประกอบการไทย เนื่องจากไทยมีความได้เปรียบกับประเทศคู่แข่งอื่นๆ หลายด้านทั้ง ในแง่มาตรฐานการผลิตที่อยู่ในระดับสากล มีความปลอดภัย สามารถตรวจสอบย้อนกลับได้ตลอดกระบวนการผลิต ที่สำคัญด้วยระยะทางที่ใกล้กัน จึงส่งผลดีต่อการส่งออก ซึ่งจะทำให้ยอดการส่งออกเนื้อไก่เพิ่มขึ้น
"การที่ไทยสามารถส่งไก่ได้ในครั้งนี้จะทำให้ราคาไก่สูงขึ้น เพราะจีนเชื่อมั่นในคุณภาพสินค้าของไทย โดยคาดว่าจะเริ่มส่งออกไก่ไปยังจีนได้ในช่วงปลายเดือนมีนาคมนี้ ล็อตแรกจำนวน 15 ตู้คอนเทรนเนอร์ มูลค่าราว 30 ล้านบาท และจะมีการส่งออกอย่างต่อเนื่อง โดยการส่งออกจะผ่านที่ด่านท่าเรือเมืองกวนเหล่ย มณฑลยูนาน มีเป้าหมายส่งสินค้าสู่จีนตอนใต้เป็นหลัก" นายสัตวแพทย์สมชวน กล่าว