รายงานข่าวจากกรมธุรกิจพลังงาน เปิดเผยว่า ในช่วงวันหยุดยาวเทศกาลสงกรานต์ ระหว่างวันที่ 11 – 17 เมษายน 2561 เป็นช่วงที่ประชาชนใช้รถใช้ถนนเพื่อเดินทางกลับภูมิลำเนา และเดินทางท่องเที่ยวเป็นจำนวนมาก ดังนั้นกรมฯ จึงขอความร่วมมือผู้ประกอบการน้ำมันเชื้อเพลิง สถานีบริการน้ำมันเชื้อเพลิง สถานีบริการก๊าซ และผู้ขนส่งน้ำมันเชื้อเพลิง เตรียมความพร้อมน้ำมันเชื้อเพลิงให้เพียงพอต่อความต้องการ เฝ้าระวัง สอดส่องและอำนวยความสะดวก จัดที่จอดรถให้เพียงพอ ห้องน้ำสะอาดให้กับประชาชนที่มาใช้บริการ ในช่วงวันหยุดยาวเทศกาลสงกรานต์ เพื่อป้องกันอุบัติภัยและการขาดแคลนน้ำมันเชื้อเพลิงของสถานีบริการน้ำมันเชื้อเพลิงทั่วประเทศ
โดยให้ผู้ประกอบการดำเนินการ ดังนี้
สำหรับสถานีบริการ
1. จัดเตรียมน้ำมันเชื้อเพลิงให้เพียงพอในช่วงเทศกาลสงกรานต์ พ.ศ. 2561
2. อำนวยความสะดวกให้กับประชาชนที่มาใช้บริการในสถานีบริการ จัดการจราจรที่สะดวกและปลอดภัย มีที่จอดรถให้เพียงพอ และจัดห้องน้ำให้สะอาด
3. กวดขันอย่างเข้มงวดไม่ให้มีการจำหน่ายและดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ในสถานีบริการน้ำมันเชื้อเพลิง
4. เฝ้าระวัง รักษาความปลอดภัยการก่อเหตุร้ายในสถานีบริการ และจัดให้มีแสงสว่างให้เพียงพอ
5. เตรียมความพร้อมของทีมระงับอุบัติภัยด้านน้ำมันเชื้อเพลิงให้สามารถตอบโต้กับสถานการณ์ได้อย่างทันท่วงที
ด้านผู้ขนส่งน้ำมันเชื้อเพลิง
1. กำชับให้พนักงานขับรถเดินรถด้วยความระมัดระวัง ปฏิบัติตามกฎหมายอย่างเคร่งครัด ไม่ดื่มเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์ และพักผ่อนให้เพียงพอ
2. เตรียมความพร้อมของทีมระงับอุบัติภัย ให้สามารถตอบโต้กับสถานการณ์ได้อย่างทันท่วงที
นายวิฑูรย์ กุลเจริญสิรัตน์ อธิบดีกรมธุรกิจพลังงาน คาดว่า ความต้องการใช้น้ำมันในช่วงสงกรานต์จะปรับตัวเพิ่มสูงขึ้น โดยกรมฯ ประเมินความต้องการใช้น้ำมันกลุ่มเบนซิน อยู่ที่ 30.08 ล้านลิตรต่อวัน ส่วนน้ำมันดีเซล อยู่ที่ 64.1 ล้านลิตรต่อวัน ซึ่งตัวเลขใกล้เคียงกับปีก่อน
ส่วนแนวโน้มปริมาณความต้องการใช้ในช่วงไตรมาส 2/61 คาดว่าการใช้กลุ่มเบนซินจะอยู่ที่ 31.7 ล้านลิตรต่อวัน เพิ่มขึ้นจากไตรมาสก่อน 2.9% ขณะที่ดีเซล อยู่ที่ 67.9 ล้านลิตรต่อวัน เพิ่มขึ้นจากไตรมาสก่อน 1.9%
สำหรับสถานการณ์น้ำมันปาล์มดิบ (CPO) หลังคณะกรรมการนโยบายปาล์มน้ำมันแห่งชาติ (กนป.) สั่งการให้กระทรวงพลังงานดูเรื่องสต็อกน้ำมัน B100 แต่ปัจจุบันพบว่าผู้ค้ามีสต็อก B100 เต็มที่แล้ว เนื่องจากถังเก็บเต็มหมดแล้ว ดังนั้นจึงไม่สามารถสต็อกเพิ่มได้ ปัจจุบันสต็อก B100 อยู่ที่ 50 ล้านลิตร อย่างไรก็ตาม กระทรวงพลังงานอยู่ระหว่างทดสอบการใช้ B10 และ B20 คาดว่าจะสามารถเพิ่มการใช้ B100 เพิ่มขึ้น