นายธานินทร์ สมบูรณ์ อธิบดีกรมทางหลวง (ทล.) กล่าวถึงการให้เอกชนร่วมลงทุนในส่วนของการดำเนินงานและบำรุงรักษา (Operation and Maintenance:O&M) ในรูปแบบ PPP Gross Cost ของทางหลวงพิเศษหมายเลข 6 สายบางปะอิน-นครราชสีมา และทางหลวงพิเศษหมายเลข 81 สายบางใหญ่-กาญจนบุรี ซึ่งที่ประชุม ครม.เมื่อวันที่ 22 ส.ค.60 มีมติเห็นชอบให้กรมทางหลวงดำเนินการนั้น กรมทางหลวงมีแผนการคัดเลือกเอกชนร่วมลงทุนให้แล้วเสร็จภายในปี 2561 โดยจะประกาศเชิญชวนเอกชนร่วมลงทุนในเดือนมี.ค., ขายซองเอกสารในเดือนเม.ย., เอกชนจัดทำเอกสารและยื่นข้อเสนอในเดือนพ.ค.-ส.ค., ประเมินข้อเสนอ และเจรจาต่อรองในเดือนก.ย.-ต.ค., ตรวจร่างสัญญาและเสนอขออนุมัติผลการคัดเลือกในเดือนพ.ย.-ธ.ค. และเสนอ ครม.เห็นชอบและลงนามสัญญาในเดือนม.ค. 62
ด้านความคืบหน้างานก่อสร้าง ขณะนี้โครงการก่อสร้างทางหลวงพิเศษหมายเลข 6 สายบางปะอิน-นครราชสีมามีความคืบหน้า 32% เร็วกว่าแผนงานที่กำหนดไว้ประมาณ 5% ซึ่งมั่นใจว่าจะสามารถดำเนินการก่อสร้างแล้วเสร็จได้ตามกำหนดภายในเดือนก.ค. 63
ส่วนโครงการก่อสร้างทางหลวงพิเศษหมายเลข 81 สายบางใหญ่-กาญจนบุรี ขณะนี้มีความคืบหน้า 6% ล่าช้ากว่าแผนงานที่กำหนดไว้ประมาณ 16% เนื่องจากยังไม่สามารถส่งมอบพื้นที่ก่อสร้างให้ผู้รับจ้างได้เพราะติดปัญหาเวนคืน โดยกรมฯ ได้รับกรอบงบประมาณเวนคืนที่ 5,429 ล้านบาท ซึ่งอยู่ระหว่างเสนอคณะรัฐมนตรี (ครม.) ขออนุมัติเพิ่มกรอบค่าเวนคืนอีก 14,317 ล้านบาท รวมเป็น 19,737.51 ล้านบาท โดยภาพรวมงานจะล่าช้ากว่าแผนงานที่กำหนดไว้ราว 6-8 เดือน
ทั้งนี้ในส่วนงาน O&M สายบางใหญ่-กาญจนบุรี เมื่อประมูลแล้วจะชะลอการลงนามสัญญาไว้ก่อนจนกว่าจะได้รับงบค่าเวนคืนเพิ่ม และควรให้งานก่อสร้างงานโยธาคืบหน้าประมาณ 50% อย่างไรก็ตาม กรมฯ จะเร่งรัดงานก่อสร้างเพื่อเปิดใช้สายบางใหญ่-กาญจนบุรี ให้ได้ภายในปลายปี 2563 หรืออย่างช้าต้นปี 2564
เมื่อโครงการดังกล่าวแล้วเสร็จจะสามารถเชื่อมต่อการคมนาคมขนส่งระหว่างภาคต่างๆ ของประเทศได้อย่างสมบูรณ์มีความสำคัญต่อการพัฒนาพื้นที่ แก้ไขปัญหาจราจรระหว่างภาค ส่งเสริมทั้งในภาคธุรกิจการค้าและการท่องเที่ยว ด้วยแนวเส้นทางที่สามารถรองรับการเดินทางและการขนส่งสินค้าไปยังทั่วทุกภูมิภาค เป็นการเพิ่มประสิทธิภาพโครงข่ายโลจิสติกส์ของประเทศ เพื่อพัฒนาไปสู่การเป็นศูนย์กลางการคมนาคมขนส่งของภูมิภาคอาเซียนต่อไป