สศค.เผยเศษฐกิจไทยเดือน ก.พ.61 ขยายตัวต่อเนื่องตามส่งออก-บริโภคเอกชนโตดี,ท่องเที่ยวโตสูง

ข่าวเศรษฐกิจ Thursday March 29, 2018 12:02 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) รายงานภาวะเศรษฐกิจการคลังประจำเดือน ก.พ.61 ว่า เศรษฐกิจไทยขยายตัวได้ต่อเนื่อง โดยในด้านอุปสงค์ขยายตัวได้ดีจากการส่งออกสินค้า การบริโภคภาคเอกชนขยายตัวได้ดี จากภาษีมูลค่าเพิ่ม ณ ราคาคงที่ ปริมาณจำหน่ายรถยนต์นั่ง และปริมาณนำเข้าสินค้าอุปโภคบริโภค ขณะที่ด้านอุปทาน พบว่า จำนวนนักท่องเที่ยวต่างประเทศยังคงขยายตัวในระดับสูง และดัชนีผลผลิตการเกษตรที่ขยายตัวได้ดีต่อเนื่อง

นายวโรทัย โกศลพิศิษฐ์กุล รองผู้อำนวยการ สศค.รักษาการในตำแหน่งที่ปรึกษาด้านเศรษฐกิจการคลัง เปิดเผยว่า ในเดือน ก.พ.61 เครื่องชี้เศรษฐกิจด้านการใช้จ่ายเพื่อการบริโภคภาคเอกชนขยายตัวได้ดี สะท้อนจากภาษีมูลค่าเพิ่ม ณ ราคาคงที่ ขยายต่อเนื่องที่ 7.2% ต่อปี โดยเป็นการขยายตัวได้ดีจากการจัดเก็บภาษีมูลค่าเพิ่มจากฐานการใช้จ่ายภายในประเทศและจากฐานการนำเข้า

สำหรับปริมาณการจำหน่ายรถยนต์นั่ง ขยายตัว 10.9% ต่อปี ขยายตัวต่อเนื่องติดต่อกันนับตั้งแต่ต้นปี 60 โดยเป็นผลจากการแนะนำรถยนต์รุ่นใหม่ที่ออกสู่ตลาดในช่วงปลายปีของค่ายรถยนต์ต่าง ๆ สำหรับปริมาณนำเข้าสินค้าอุปโภคบริโภค ขยายตัวต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 10 ติดต่อกันโดยขยายตัว 8.9๔ ต่อปี ขณะที่ปริมาณรถจักรยานยนต์จดทะเบียนใหม่ กลับมาหดตัว -5.3% ต่อปี โดยเป็นการหดตัวทั้งในเขตกรุงเทพฯ และในเขตภูมิภาค เนื่องจากรายได้ภาคเกษตรที่ปรับตัวลดลงต่อเนื่อง ทำให้รายได้เกษตรกรที่แท้จริง หดตัว -7.6% ต่อปี

ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคเกี่ยวกับเศรษฐกิจโดยรวมในเดือน ก.พ.61 อยู่ที่ระดับ 66.1 ลดลงจากเดือนก่อนจากความกังวลเกี่ยวกับราคาพืชผลทางการเกษตรและค่าเงินบาทที่แข็งค่า

เครื่องชี้เศรษฐกิจด้านการลงทุนภาคเอกชนขยายตัวได้ดีอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะหมวดเครื่องมือเครื่องจักรที่ได้รับปัจจัยสนับสนุนจากมาตรการภาษีเพื่อส่งเสริมการลงทุนในประเทศ สะท้อนจากปริมาณนำเข้าสินค้าทุน ขยายตัว 1.8% ต่อปี และเมื่อปรับผลทางฤดูกาลออกขยายตัว 7.8% ต่อเดือน ขณะที่ปริมาณจำหน่ายรถยนต์เชิงพาณิชย์ ขยายตัวต่อเนื่องที่ 9.9% ต่อปี โดยมีปัจจัยหลักจากยอดจำหน่ายรถกระบะขนาด 1 ตัน ที่ขยายตัวสูงถึง 7.9% ต่อปี ขณะที่การลงทุนในหมวดก่อสร้าง สะท้อนจากภาษีการทำธุรกรรมอสังหาริมทรัพย์ ขยายตัวต่อเนื่อง 10.3% ต่อปี และดัชนีราคาวัสดุก่อสร้าง ขยายตัว 2.9% ต่อปี สาเหตุสำคัญจากการเพิ่มขึ้นของดัชนีราคาหมวดเหล็กและผลิตภัณฑ์เหล็กที่สูงขึ้น 8.3% ต่อปี

อุปสงค์จากต่างประเทศผ่านการส่งออกสินค้าขยายตัวในระดับสูง และขยายตัวต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 12 ติดต่อกัน โดยมูลค่าการส่งออกสินค้าขยายตัวต่อเนื่องที่ 10.3% ต่อปี โดยหมวดสินค้าสำคัญที่ขยายตัวได้ดี ได้แก่ ยานพาหนะอุปกรณ์และส่วนประกอบ เครื่องอิเล็กทรอนิกส์ น้ำมันสำเร็จรูป เม็ดพลาสติก คมีภัณฑ์ และเครื่องใช้ไฟฟ้า เป็นต้น ขณะที่ประเทศคู่ค้าที่ขยายตัวได้ดี เช่น ญี่ปุ่น อาเซียน-9 อาเซียน-5 อินโดจีน (CLMV) สหภาพยุโรป อินเดีย และทวีปออสเตรเลีย เป็นสำคัญ

สำหรับมูลค่าการนำเข้าสินค้าขยายตัวต่อเนื่องเช่นกันที่ 16.0% ต่อปี โดยกลุ่มสินค้าที่ขยายตัวได้ดี ได้แก่ วัตถุดิบและกึ่งสำเร็จรูป สินค้าแร่และเชื้อเพลิง ทองคำ สินค้าทุน และสินค้าอุปโภคบริโภค เป็นต้น ทั้งนี้ ผลของมูลค่าการส่งออกสินค้าที่สูงกว่ามูลค่าการนำเข้าสินค้าส่งผลให้ดุลการค้า เกินดุลจำนวน 0.8 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ

เครื่องชี้เศรษฐกิจไทยด้านอุปทาน ได้รับปัจจัยสนับสนุนจากจำนวนนักท่องเที่ยวต่างประเทศที่เดินทางเข้าประเทศไทยที่ขยายตัวในระดับสูง และดัชนีผลผลิตสินค้าเกษตรที่ขยายตัวได้ดี โดยนักท่องเที่ยวต่างประเทศที่เดินทางเข้าประเทศไทย สูงสุดเป็นประวัติการณ์ โดยมีจำนวน 3.57 ล้านคน ขยายตัว 19.3% ต่อปี ส่วนหนึ่งได้รับปัจจัยสนับสนุนจากปัจจัยฐานเหลื่อมเดือนจากปีก่อนที่ช่วงเทศกาลตรุษจีนอยู่ในเดือน ม.ค.60 แต่ในปี 61 อยู่ในเดือน ก.พ. ส่งผลทำให้มีรายได้จากการท่องเที่ยวต่างประเทศจำนวน 1.95 แสนล้านบาท ขยายตัว 23.8% ต่อปี โดยเป็นนักท่องเที่ยวที่ขยายตัวได้ดีจาก จีน รัสเซีย ฮ่องกง มาเลเซีย และอินเดีย เป็นหลัก

สำหรับดัชนีผลผลิตสินค้าเกษตรขยายตัวต่อเนื่องที่ 7.1% ต่อปี และเมื่อปรับผลทางฤดูกาลออกขยายตัว 1.0% ต่อเดือน เป็นผลจากหมวดพืชผลสำคัญ หมวดปศุสัตว์ และหมวดประมงที่ขยายตัวได้ดี ส่วนดัชนีความเชื่อมั่นภาคอุตสาหกรรม (TISI) อยู่ที่ระดับ 89.9 เป็นการปรับตัวลดลงครั้งแรกในรอบ 4 เดือน เนื่องจากผู้ประกอบการมีความกังวลเกี่ยวกับต้นทุนการผลิตทั้งจากราคาวัตถุดิบและค่าจ้างขั้นต่ำที่เตรียมจะปรับขึ้น ในวันที่ 1 เม.ย.61 รวมทั้งมาตรการกีดกันทางการค้าที่มีแนวโน้มเพิ่มขึ้น และความผันผวนของอัตราแลกเปลี่ยน นอกจากนี้ ในเดือน ก.พ.มีวันทำการที่น้อยกว่าปกติ และเป็นช่วงของเทศกาลตรุษจีน

ด้านเสถียรภาพเศรษฐกิจภายในประเทศยังอยู่ในเกณฑ์ดี และเสถียรภาพภายนอกอยู่ในระดับที่มั่นคง สะท้อนจากอัตราเงินเฟ้อทั่วไปอยู่ที่ 0.4% ต่อปี อัตราเงินเฟ้อพื้นฐานอยู่ที่ 0.6% ต่อปี สำหรับอัตราการว่างงานคงที่จากเดือนก่อนหน้าอยู่ที่ 1.3% ของกำลังแรงงานรวม ขณะที่สัดส่วนหนี้สาธารณะต่อ GDP ในเดือน ม.ค.61 อยู่ที่ 41.4% ต่อปี ซึ่งอยู่ภายใต้กรอบความยั่งยืนทางการคลังที่ตั้งไว้ไม่เกิน 60% ต่อ GDP สำหรับเสถียรภาพภายนอกยังอยู่ในระดับมั่นคงและสามารถรองรับความเสี่ยงจากความผันผวนของเศรษฐกิจโลกได้ สะท้อนจากทุนสำรองระหว่างประเทศ ณ สิ้นเดือน ก.พ.61 อยู่ที่ระดับ 212.7 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ มากกว่าหนี้ต่างประเทศระยะสั้น 3.3 เท่า


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ