นางนันทวัลย์ ศกุนตนาค ปลัดกระทรวงพาณิชย์ แถลงผลการประชุมคณะกรรมการนโยบายและบริหารจัดการข้าว (นบข.) ที่มี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) เป็นประธาน ว่า นายกรัฐมนตรีพอใจการดำเนินนโยบายการบริหารจัดการข้าว เนื่องจากมาตรการต่างๆ ที่นำมาออกมาใช้มีประสิทธิภาพสามารถดึงข้าวออกจากตลาดได้กว่า 500,000 ตัน
ทั้งนี้ที่ประชุมฯ รับทราบถึงแผนการตลาดและการผลิตข้าวครบวงจร โดยในฤดูการผลิต 2560/2561 สามารถลดพื้นที่เพาะปลูกได้ 66.01 ล้านไร่ มีผลผลิต 30.45 ล้านตัน และจากนโยบายการผลิตตามความต้องการของตลาด คณะทำงานได้กำหนดความต้องการใช้ข้าว (ดีมานด์) เบื้องต้น ปีการผลิต 2561/2562 คาดว่าจะมีปริมาณผลผลิตทั้งหมด 30.525 ล้านตันข้าวเปลือก โดยเป็นข้าวเพื่อการส่งออก 14.69 ล้านตันข้าวเปลือก ข้าวเพื่อบริโภค 12 ล้านตันข้าวเปลือก และข้าวเพื่อใช้ในอุตสาหกรรม 2.4 ล้านตันข้าวเปลือก และข้าวเพื่อทำเมล็ดพันธุ์ 1.389 ล้านตันข้าวเปลือก โดยได้แยกเป็นชนิดของข้าวตามความต้องการของตลาดเป็น ข้าวหอมมะลิ 6.419 ล้านตันข้าวเปลือก ข้าวหอมไทย 1.609 ล้านตันข้าวเปลือก ข้าวเจ้า 15.232 ล้านตันข้าวเปลือก ข้าวเหนียว 7.004 ล้านตันข้าวเปลือก และเป็นข้าวเฉพาะ(ข้าว กข 43 หรือข้าวอินทรีย์) 2.6 แสนตันข้าวเปลือก
ปลัดกระทรวงพาณิชย์ กล่าวว่า แนวโน้มราคาข้าวในตลาดโลกดีขึ้น โดยยังมีความต้องการข้าวไทยอย่างต่อเนื่อง รวมถึงการทำสัญญาการซื้อขายข้าวแบบรัฐต่อรัฐ (จีทูจี) ที่เตรียมจะส่งมอบข้าวไปยังประเทศจีนอีกในเดือนเมษายนนี้
สำหรับมาตรการช่วยเหลือเกษตรกรและรักษาเสถียรภาพราคาข้าว ฤดูกาล 2561/2562 ที่ประชุมฯ ได้พิจารณากรอบการดำเนินการภายใต้แผนการผลิตและการตลาดข้าวครบวงจร โดยมีมาตรการต่างๆ เช่น มาตรการส่งเสริมนาแปลงใหญ่จะการดำเนินการขยายพื้นที่เพิ่มขึ้น การผลิตข้าวอินทรีย์กำหนดพื้นที่เป้าหมายไว้ 600,000 ไร่ และการส่งเสริมการผลิตข้าวหอมมะลิคุณภาพชั้นเลิศ รวมถึงการส่งเสริมการผลิตข้าวเฉพาะ
ส่วนมาตรการด้านการตลาดนั้น ที่ประชุมฯ เห็นว่า มาตรการของรัฐในปีที่ผ่านมาค่อนข้างได้ผล ทำให้ราคาข้าวสูงขึ้น โดยเฉพาะข้าวหอมมะลิที่มีราคาสูงมาก ที่ประชุมฯ จึงอยากให้คงมาตรการที่มีอยู่เดิม คือการดึงข้าวออกจากตลาด ทั้งในเรื่องของการช่วยเหลือเกษตรในภาพรวม ทั้งเรื่องการช่วยเหลือค่าเก็บเกี่ยว ค่าปรับปรุงคุณภาพข้าว การชะลอการขายข้าวเปลือก เก็บข้าวไว้ในยุ้งฉาง และโครงการชดเชยดอกเบี้ยให้ผู้ประกอบการค้าข้าวหรือโรงสี
ปลัดกระทรวงพาณิชย์ กล่าวว่า ที่ประชุมฯ ได้เสนอมาตรการในการส่งเสริมให้เกษตรกรมียุ้งฉางเพื่อเก็บข้าวมากขึ้น ไม่ให้นำข้าวออกสู่ตลาดพร้อมกันจำนวนมาก ที่ประชุมฯ จึงเห็นชอบมาตรการสินเชื่อเพื่อสร้างยุ้งฉาง โดยให้เงินกู้ดอกเบี้ยพิเศษ ทั้งเกษตรกรรายบุคคลและสถาบันการเกษตร โดยที่ประชุมฯ กำหนดให้ผู้เข้าร่วมโครงการดังกล่าวต้องเข้าร่วมโครงการสินเชื่อเพื่อชะลอขายข้าวเปลือกต่อไป
ส่วนการระบายข้าวนั้น ที่ประชุมฯ เห็นชอบให้เร่งระบายข้าวกลุ่มหนึ่ง คือกลุ่มที่ใช้สำหรับการบริโภคที่เหลืออยู่ 44,000 ตัน โดยเริ่มระบายในช่วงเดือนเมษายนและพฤษภาคมนี้ ส่วนข้าวในกลุ่มที่สองและสามอยู่ระหว่างการตรวจสอบ ซึ่งจะมีการระบายข้าวในช่วงต่อไป
นอกจากนี้ ที่ประชุมฯ ได้อนุมัติให้จัดตั้งคณะอนุกรรมการพิจารณามาตรการด้านการผลิตและการตลาด สำหรับข้าวอินทรีย์และข้าวเฉพาะขึ้นมา เพื่อส่งเสริมการผลิตข้าวคุณภาพสูง โดยคณะอนุกรรมการชุดนี้จะมีอำนาจศึกษา เสนอแนะแนวทางในการส่งเสริม และการแก้ไขปัญหาให้ข้าวกลุ่มพิเศษมีการขยายการผลิตและเชื่อมโยงการตลาดมากขึ้น