ภาวะตลาดเงินบาท: ปิดตลาด 31.16/17 แกว่งแคบ-การซื้อขายเบาบาง คาดกรอบพรุ่งนี้

นักบริหารเงินจากธนาคารกรุงเทพ เปิดเผยว่า เงินบาทปิดตลาดเย็นนี้อยู่ที่ระดับ 31.16/17 บาท/ดอลลาร์ ทรงตัว จากช่วงเช้าที่เปิดตลาดที่ระดับ 31.16 บาท/ดอลลาร์

วันนี้เงินบาทเคลื่อนไหวอยู่ในกรอบแคบ โดยระหว่างวันเงินบาทแข็งค่าสุดที่ระดับ 31.15/17 บาท/ดอลลาร์ และอ่อน ค่าสุดที่ระดับ 31.18/19 บาท/ดอลลาร์ การซื้อขายวันนี้ค่อนข้างเงียบๆ เนื่องจากหลายตลาดทางฝั่งยุโรปยังปิดทำการเนื่องในวัน Easter Monday

นักบริหารเงิน คาดว่า พรุ่งนี้เงินบาทยังมีทิศทางแข็งค่า มองกรอบไว้ที่ 31.10-31.25 บาท/ดอลลาร์

ปัจจัยสำคัญ

ช่วงเย็นนี้เงินเยนอยู่ที่ระดับ 106.30 เยน/ดอลลาร์ จากช่วงเช้าที่ระดับ 106.35 เยน/ดอลลาร์
ส่วนเงินยูโรอยู่ที่ระดับ 1.2327 ดอลลาร์/ยูโร จากช่วงเช้าที่ระดับ 1.2326 ดอลลาร์/ยูโร
ดัชนี SET ปิดวันนี้ที่ระดับ 1,782.28 จุด เพิ่มขึ้น 6.02 จุด (+0.34%) มูลค่าการซื้อขาย 40,445 ล้านบาท
สรุปปริมาณการซื้อขายรายกลุ่ม ต่างชาติขายสุทธิ 1,097.41 ลบ.(SET+MAI)
กระทรวงพาณิชย์ เผยดัชนีราคาผู้บริโภคทั่วไป (CPI) หรืออัตราเงินเฟ้อในเดือนมี.ค.เพิ่มขึ้น 0.79% โดยเพิ่มขึ้น

ต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 9 สาเหตุสำคัญมาจากการเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องจากปัจจัยด้านการบริโภค และการใช้จ่ายของภาคครัวเรือนใน

หมวดที่มิใช่อาหารสด ขณะที่อัตราเงินเฟ้อในไตรมาส 1/61 เพิ่มขึ้น 0.64% พร้อมประเมินว่าเงินเฟ้อในไตรมาส 2/61 จะอยู่ที่

ระดับ 1.06% และคาดว่าทั้งปีจะยังอยู่ในกรอบที่ตั้งเป้าไว้ที่ 0.7-1.7% ขณะเดียวกัน เชื่อว่าการปรับขึ้นค่าแรงขั้นต่ำทั่วประเทศ

ตั้งแต่เดือนเม.ย.61 จะไม่ส่งผลให้อัตราเงินเฟ้อทั้งปีปรับเพิ่มขึ้นไปจากเป้าหมายที่คาดไว้

ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เปิดเผยดัชนีความเชื่อมั่นทางธุรกิจในเดือน มี.ค.61 เพิ่มขึ้นจาก 51.4 ใน

เดือนก่อน มาอยู่ที่ 53.3 สูงสุดนับตั้งแต่เดือน พ.ค.56 โดยเป็นการปรับดีขึ้นในทุกองค์ประกอบ ทั้งในกลุ่มผู้ประกอบการภาคการ

ผลิต และภาคที่มิใช่การผลิต โดยกลุ่มผู้ผลิตมีความเชื่อมั่นด้านการผลิตและคำสั่งซื้อเพิ่มขึ้นมากตามอุปสงค์จากต่างประเทศที่ขยายตัวดี

และอุปสงค์ในประเทศที่ทยอยปรับดีขึ้น โดยเฉพาะในกลุ่มเคมีและปิโตรเลียม ยางและพลาสติก กระดาษ อาหารและเครื่องดื่ม รวม

ถึงเครื่องใช้ไฟฟ้า สำหรับภาคที่มิใช่การผลิต ความเชื่อมั่นเพิ่มขึ้นในกลุ่มผู้ประกอบการภาคการค้าและโลจิสติกส์ตามปริมาณการค้าและ

คำสั่งซื้อที่ดีขึ้น

ตลาดหุ้นในยุโรปปิดทำการในวันนี้ เนื่องในวัน Easter Monday เช่น ตลาดหุ้นฝรั่งเศส, ตลาดหุ้นเยอรมนี,
คณะกรรมการด้านภาษีศุลกากรแห่งรัฐสภาจีนได้ตัดสินใจเรียกเก็บภาษีนำเข้าสินค้า 120 รายการจากสหรัฐอเมริกา

ซึ่งรวมถึงผลไม้และผลิตภัณฑ์ต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับผลไม้ ในอัตรา 15% และเรียกเก็บภาษีนำเข้าสินค้าอีก 8 รายการ ซึ่งรวมถึงเนื้อ

หมูและผลิตภัณฑ์ต่างๆที่เกี่ยวข้องกับเนื้อหมู ในอัตรา 25% หลังจากที่ได้มีการยื่นข้อเสนอดังกล่าวเมื่อวันที่ 23 มี.ค.

ถ้อยแถลงของคณะกรรมการด้านภาษีศุลกากรแห่งรัฐสภาจีนระบุว่า การตัดสินใจออกมาตรการดังกล่าวมีเป้าหมายที่จะ ตอบโต้การที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ได้ลงนามในคำสั่งให้เรียกเก็บภาษีนำเข้าสินค้าจากจีน โดยกล่าวหาว่าจีนดำเนินนโยบาย การค้าและการลงทุนที่ไม่เป็นธรรม ซึ่งรวมถึงการขโมยทรัพย์สินทางปัญญา

รัฐบาลสหรัฐ ภายใต้การนำของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ เตรียมเปิดเผยรายการสินค้าจีนที่จะถูกจัดเก็บภาษีนำ

เข้าภายในวันศุกร์นี้ตามเวลาสหรัฐ หลังจากที่ได้มีการลงนามในคำสั่งประธานาธิบดี เพื่อเรียกเก็บภาษีนำเข้าสินค้าจากจีนวงเงิน 6

หมื่นล้านดอลลาร์

สำนักงานบริหารเงินตราต่างประเทศของจีน (SAFE) เปิดเผยว่า หนี้ต่างประเทศของจีน ณ สิ้นปี 2560 แตะที่

1.71 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ เพิ่มขึ้น 2.948 แสนล้านดอลลาร์จากปีก่อนหน้า คิดเป็นอัตราส่วนหนี้ต่างประเทศต่อ GDP ที่ 14% และ

อัตราส่วนหนี้ต่างประเทศระยะสั้นต่อเงินสำรองระหว่างประเทศที่ 35% โดยสถานการณ์ความเสี่ยงด้านการเงินอันเนื่องมาจากหนี้ต่าง

ประเทศของจีนยังอยู่ในสภาวะที่ควบคุมได้ แม้หนี้ต่างประเทศจะเพิ่มสูงขึ้น

ทั้งนี้ หนี้ต่างประเทศที่เพิ่มขึ้นเป็นผลมาจากการเติบโตอย่างมีเสถียรภาพของเศรษฐกิจจีน ซึ่งเพิ่มความเคลื่อนไหวของ อัตราแลกเปลี่ยนเงินหยวนแบบสองทาง รวมทั้งยังเป็นผลมาจากนโยบายของรัฐบาลจีนที่เอื้ออำนวยสินเชื่อข้ามพรมแดน

แท็ก ธนาคารกรุงเทพ เงินบาท

--อินโฟเควสท์ โดย กษมาพร กิตติสัมพันธ์/ศศิธร โทร.02-2535000 ต่อ 345 อีเมล์: sasithorn@infoquest.co.th--

ภาวะตลาดเงินบาท: ปิดตลาด 31.16/17 แกว่งแคบ-การซื้อขายเบาบาง คาดกรอบพรุ่งนี้ 31.10-31.25