นางกุลณี อิศดิศัย อธิบดีกรมพัฒนาธุรกิจการค้า กระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ รมว.พาณิชย์ ได้ให้ความสำคัญในการสร้างความเข้มแข็งแก่เศรษฐกิจฐานรากของประเทศเป็นอย่างมาก โดยเฉพาะคนตัวเล็ก หรือผู้ประกอบการเอสเอ็มอีรายย่อยที่เป็นฟันเฟืองสำคัญของประเทศ จึงได้สั่งการให้กรมพัฒนาธุรกิจการค้าเร่งยกระดับคนตัวเล็กให้มีความแข็งแกร่ง ทั้งในส่วนของการสร้างองค์ความรู้เพื่อให้เข้าใจและเข้าถึงธุรกิจที่กำลังดำเนินกิจการอยู่อย่างถ่องแท้ การขยายช่องทางการตลาดและลดต้นทุนธุรกิจโดยใช้ระบบอี-คอมเมิร์ซเข้ามาช่วย การเชื่อมโยงเครือข่ายสร้างพันธมิตรทางธุรกิจ เพื่อช่วยเหลือเกื้อกูลและร่วมกันสร้างโอกาสทางธุรกิจ รวมถึงการนำเทคโนโลยีสารสนเทศเข้ามาช่วยบริหารจัดการธุรกิจ
เป้าหมายสำคัญ คือ การพัฒนาผู้ประกอบการรายย่อยให้มีความเข้มแข็ง โดยการลงพื้นที่ในส่วนภูมิภาค 18 จังหวัด และจังหวัดที่มีความยากจน 10 จังหวัด เพื่อส่งเสริมพัฒนาผู้ประกอบการในทุกๆ ด้านทั้งการให้ความรู้ การให้คำปรึกษาทางธุรกิจเชิงลึกโดยผู้เชี่ยวชาญ และส่งเสริมให้ผู้ประกอบการใช้พาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ หรือ e-Commerce เป็นเครื่องมือในการขยายตลาด ทำการประชาสัมพันธ์ และลดต้นทุนทางการค้า ซึ่งขณะนี้ กรมฯ เตรียมเปิดแหล่งขายของออนไลน์ "ของดีทั่วไทย" Kongdeetourthai.com (พร้อมให้บริการภายในเดือนเมษายน 2561 นี้) เป็นเว็บไซต์ที่รวบรวมสินค้าและบริการของผู้ประกอบการรายย่อยจากทั่วประเทศในรูปแบบ e-Directory โดยจะให้ผู้ประกอบการรายย่อยนำสินค้าหรือบริการขึ้นมานำเสนอขายบนเว็บไซต์ เพื่อขยายฐานลูกค้าและให้เป็นที่รู้จักมากยิ่งขึ้น
ทั้งนี้ เว็บไซต์ "ของดีทั่วไทย" จะมีการแบ่งตามหมวดหมู่สินค้า ประเภทสินค้า และแบ่งตามพื้นที่ร้านค้า (Location Base) เพื่อให้ง่ายต่อการค้นหาและจดจำ นอกจากนี้ ยังมีการแบ่งสินค้าและบริการตามคะแนนจากผู้ใช้บริการ (Review Rating) เพื่อให้ผู้ใช้บริการทราบถึงความพึงใจของผู้ใช้บริการโดยรวมจากร้านค้านั้น รวมถึงกระตุ้นให้ผู้ประกอบการที่ได้คะแนนความพึงพอใจน้อยเร่งพัฒนาคุณภาพสินค้าและบริการเพื่อให้ลูกค้ามีความพึงพอใจมากยิ่งขึ้น
"สินค้าและบริการในเว็บไซต์ "ของดีทั่วไทย" จะประกอบด้วย สินค้าชุมชน, สินค้าโอทอป, สินค้า GI, สินค้าออแกนิค, สินค้าจากผู้ประกอบการเอสเอ็มอี และสินค้าจากเครือข่ายธุรกิจ MOC Biz Club ที่กระทรวงพาณิชย์ให้การสนับสนุนส่งเสริมเบื้องต้นจะมีผู้ประกอบการรายย่อยเข้าร่วมกว่า 2,000 ราย และจะเพิ่มขึ้นเป็นกว่า 5,000 ราย ในเดือนมิถุนายน 2561 นี้" อธิบดีกรมพัฒนาธุรกิจการค้ากล่าว
นอกจากนี้ กรมฯ จะมีการเชื่อมโยงตลาดกลางพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ (e-Marketplace) เช่น Lazada, Shopee, 11Street, Tarad.com, lnwshop (เทพช็อป), Thaitrade.com ระบบโลจิสติกส์ เช่น THeX ช้างบิน บริษัท นิ่มซี่เส็ง จำกัด, บริษัท บลูแอนด์ไวท์ จำกัด, บริษัท ไปรษณีย์ไทย จำกัด และ e-Payment เช่น ธนาคารกสิกรไทย ธนาคารกรุงศรีอยุธยา และธนาคารไทยพาณิชย์ เพื่ออำนวยความสะดวกและเพิ่มประสิทธิภาพการค้าแก่ผู้ประกอบการคนตัวเล็กรองรับการทำ e-Commerce รวมถึงบริการเป็นพี่เลี้ยงช่วยบริหารจัดการและแก้ไขปัญหาให้ผู้ประกอบการร้านค้าออนไลน์มือใหม่ให้สามารถใช้ e-Commerce เป็นช่องทางหลักในการสร้างรายได้อย่างยั่งยืน
"การเชื่อมโยงผู้ประกอบการรายใหญ่เพื่อช่วยเหลือและส่งเสริมผู้ประกอบการรายเล็กนี้ จะช่วยสร้างความสมดุลทางการค้า และกระตุ้นเศรษฐกิจฐานรากของประเทศให้มีความแข็งแกร่งมั่นคงมากยิ่งขึ้น" อธิบดีกรมพัฒนาธุรกิจการค้ากล่าว