นายพิศิษฐ์ เสรีวิวัฒนา กรรมการผู้จัดการ ธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าแห่งประเทศไทย (ธสน.) หรือ EXIM BANK เปิดเผยถึงกรณีที่สหรัฐฯ และจีนต่างใช้มาตรการตอบโต้ทางการค้า ด้วยการตั้งกำแพงภาษีสินค้านำเข้าระหว่างกันว่า เชื่อว่าไทยจะไม่ได้รับผลกระทบโดยตรงจากประเด็นปัญหาดังกล่าว เนื่องจากปัจจุบันสัดส่วนผู้ประกอบการไทยที่ส่งออกสินค้าไปยังสหรัฐฯ ลดลงเหลือ 10% จากเดิมที่ 20% และส่งสินค้าไปจีน อยู่ที่ 12% โดยในส่วนนี้เป็นลูกค้าของธนาคารไม่มากนัก เบื้องต้นมองว่าผู้ประกอบการไทยอาจได้รับผลกระทบบ้างในทางอ้อม เนื่องจากสถานการณ์และทิศทางการส่งออกในตลาดจะเปลี่ยนแปลงไป แต่เชื่อว่าผู้ประกอบการไทยจะปรับตัวได้เป็นอย่างดีกับสถานการณ์และทิศทางการส่งออกในตลาดโลกที่จะเปลี่ยนแปลงไปหลังจากนี้
ทั้งนี้ ในส่วนของ ธสน.ยังอยู่ระหว่างประเมินผลกระทบที่จะเกิดขึ้นจากปัจจัยดังกล่าว ซึ่งขณะนี้เป็นเพียงระยะเริ่มต้น จึงยังไม่มีผลที่ชัดเจนออกมา โดยขณะนี้อยู่ระหว่างการเตรียมความพร้อมเกี่ยวกับแนวทางในการให้ความช่วยเหลือและส่งเสริมผู้ประกอบการไทยไม่ให้ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์ดังกล่าว และอยากเตือนผู้ประกอบการในการให้ความสำคัญกับปัจจัยที่จะมีผลต่อการส่งออกในปีนี้ ได้แก่ เรื่องอัตราแลกเปลี่ยนที่ผันผวน, ทิศทางและสถานการณ์การส่งออกในตลาดโลกที่มีโอกาสเปลี่ยนแปลงไป โดยอยากให้ผู้ประกอบการศึกษาและปรับตัวให้เร็วขึ้นเพื่อรองรับสถานการณ์ทั้งหมด
"อุตสาหกรรมเหล็ก โดยเฉพาะเหล็กต้นน้ำ อาจต้องเฝ้าระวังจากปัจจัยเสี่ยงดังกล่าวที่อาจทำให้รูปแบบการค้าในตลาดโลกเปลี่ยนไป เช่น กรณีสหรัฐฯ ห้ามนำเข้าเหล็กจากจีน เหล็กในส่วนนั้นอาจจะดั้มเข้ามาไทย ซึ่งไทยก็จะได้เหล็กราคาถูก จึงอยากให้ผู้ประกอบการไทยมองปัจจัยนี้เป็นโอกาสที่ดีของเรา มองในมุมที่ดีว่าเท่ากับคู่แข่งในการค้าของไทยหายไป โดยปัจจุบันลูกค้าของธนาคารที่ส่งสินค้าไปยัง 2 ประเทศยังมีไม่มากนัก จึงไม่ต้องกังวล" นายพิศิษฐ์ กล่าว