นายมงคล ลีลาธรรม กรรมการผู้จัดการ ธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมแห่งประเทศไทย (ธพว.) หรือ SME Development Bank กล่าวว่า จากการที่ ธพว.ได้ลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือโครงการสร้างบ้านสร้างอาชีพกับธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส.) และบรรษัทประกันสินเชื่ออุตสาหกรรมขนาดย่อม (บสย.) เมื่อวันที่ 3 เม.ย.ที่ผ่านมา เพื่อร่วมกันสร้างความเข้มแข็งของเศรษฐกิจภายในระดับฐานราก (Local Economy) ด้วยการสนับสนุนให้ลูกค้าของ ธอส.กว่า 1 ล้านรายที่ต้องการเงินทุนไปประกอบอาชีพสามารถมาขอสินเชื่อดอกเบี้ยพิเศษกับ ธพว.ได้โดยไม่ต้องนำบ้านมาใช้เป็นหลักประกัน
โดยขณะนี้ ธพว.เตรียมความพร้อมไว้บริการทุกด้านแล้ว ทั้งทีมงาน และสินเชื่อดอกเบี้ยถูก ได้แก่ สินเชื่อเศรษฐกิจติดดาววงเงิน 50,000 ล้านบาท คิดดอกเบี้ยเพียง 3%คงที่ 3 ปี ผ่อนชำระได้นานถึง 7 ปี สามารถใช้ บสย.ค้ำประกันฟรี 4 ปีแรก กู้ 1 ล้านบาท ผ่อนเพียง 460 บาทต่อวัน
สำหรับกลุ่มผู้ประกอบการธุรกิจท่องเที่ยว ท่องเที่ยวชุมชน หรือธุรกิจที่ตั้งอยู่ในหมู่บ้านอุตสาหกรรมสร้างสรรค์ (CIV) เช่น โฮมสเตย์ บูติคโฮเต็ล ร้านอาหาร ผลิตขนมท้องถิ่น เป็นต้น กลุ่มอาชีพบริการต่างๆ ที่อยู่คู่ชุมชนตัวอย่างเช่น 10 อาชีพ ดังนี้ 1.ช่างตัดผม 2.ช่างเสริมสวย 3.ช่างตัดเสื้อ 4.ซ่อมรถยนต์/รถจักรยานยนต์ 5.ซ่อมเครื่องใช้ไฟฟ้า 6.ช่างซ่อมประปา/ไฟฟ้า 7.ช่างไม้/เฟอร์นิเจอร์/ประกอบเรือ 8.ซ่อมคอมพิวเตอร์/สมาร์ทโฟน 9.ช่างตีเหล็ก และ 10.ทำดอกไม้ประดิษฐ์ เป็นต้น รวมถึงกลุ่มธุรกิจเกษตรแปรรูป ทั้งอาหารและไม่ใช่อาหาร เช่น ผลิตภัณฑ์สปา ผลไม้อบแห้ง เครื่องดื่มสมุนไพร และเครื่องสำอาง เป็นต้น
สินเชื่อเถ้าแก่ 4.0 วงเงิน 8,000 ล้านบาท สำหรับผู้กู้ที่ขอจดทะเบียนเป็นนิติบุคคล (บริษัทจำกัด ห้างหุ้นส่วนจำกัด หรือห้างหุ้นส่วนสามัญนิติบุคคล) คิดอัตราดอกเบี้ยพิเศษเพียง 1% คงที่ตลอดระยะเวลาผ่อนชำระนานถึง 7 ปี ปลอดชำระเงินต้น 3 ปีแรก เปิดโอกาสให้ผู้ประกอบการรายย่อยที่มีปัญหาทางการเงินสามารถกู้ได้ (แม้เคยปรับโครงสร้างหนี้ หรือผ่อนชำระไม่ต่อเนื่องมาก็ตาม) สำหรับลงทุนขยาย ปรับปรุงกิจการ และใช้เป็นเงินหมุนเวียน โดยไม่ต้องใช้ บสย.หรือบ้านมาค้ำประกัน
และสินเชื่อสร้างอาชีพวัยเก๋าวงเงิน 1,000 ล้านบาท เปิดโอกาสผู้ประกอบการอายุตั้งแต่ 55 ปีขึ้นไป รวมระยะเวลาผ่อนชำระสูงสุดถึงอายุ 75 ปี นำไปเริ่มต้นทำธุรกิจใหม่ต่างๆ เพื่อสร้างรายได้หลังเกษียณอายุจากการทำงานประจำ เช่น เปิดร้านกาแฟ ทำฟาร์มสัตว์เลี้ยง ธุรกิจเกษตรอินทรีย์ ฯลฯ รวมไปถึงลงทุนซื้อแฟรนไชส์ ซึ่งมีความเสี่ยงต่ำในการประกอบธุรกิจ รวมถึงนำใช้ปรับปรุงกิจการเดิมให้มีประสิทธิภาพสูงขึ้น สามารถแข่งขันในธุรกิจได้
นอกจากนั้น ธพว.จะอำนวยความสะดวกสบายให้แก่ผู้ประกอบการที่ต้องการสินเชื่อ โดยเปิดบริการยื่นขอสินเชื่อผ่านออนไลน์ https://coreportal.smebank.co.th/ เพียงสแกน QR ตามจุดต่างๆ ที่ ธพว.นำป้ายสแกนไปติดตั้งไว้กว่า 10,000 จุดทั่วประเทศ เช่น สถานที่ราชการ หน่วยงานพันธมิตร และเครือข่ายสมาคมต่างๆ เป็นต้น
นายมงคล คาดว่า ภายในปีนี้จะมีลูกค้าของ ธอส.มาใช้บริการสินเชื่อจาก ธพว.ประมาณ 20,000 ราย วงเงินกู้ตั้งแต่ 2 แสนบาทถึง 2 ล้านบาทต่อราย มูลค่าสินเชื่อรวมประมาณ 1,500 ล้านบาท ซึ่งจะก่อให้เกิดการสร้างโอกาส สร้างงาน สร้างอาชีพ และสร้างรายได้อย่างกว้างขวาง ช่วยขับเคลื่อนเศรษฐกิจภายในประเทศ สร้างความเข้มแข็งให้แก่เศรษฐกิจไทยจากฐานรากอย่างแท้จริง
"ลูกค้า ธอส.ที่ต้องการกู้เงินในโครงการนี้ ไม่ต้องใช้บ้านมาเป็นหลักทรัพย์ค้ำประกัน ขอแค่สมองกับสองมือก็จะได้รับเงินทุนไปสร้างโอกาสสร้างอาชีพ เพิ่มรายได้ โดยใช้ บสย.ค้ำประกันแทน ซึ่งรัฐบาลและธนาคารออกค่าธรรมเนียมฟรี 4 ปี คิดอัตราดอกเบี้ยถูกแค่ 1% และ 3% ผ่อนนานถึง 7 ปี หรือคิดง่ายๆ ว่า กู้ 100,000 บาท ผ่อนเพียงวันละ 46 บาทเท่านั้น ถือเป็นภาระเงินกู้ที่ต่ำมากๆ เอื้อต่อการนำไปลงทุนประกอบอาชีพ" นายมงคล กล่าว