ภาวะตลาดเงินบาท: ปิด 31.23 อ่อนค่าตามสกุลเงินในภูมิภาค คาดกรอบพรุ่งนี้ 31.10-31.30

ข่าวเศรษฐกิจ Wednesday April 4, 2018 17:30 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นักบริหารเงินจากธนาคารซีไอเอ็มบี ไทย เปิดเผยว่า เงินบาทปิดตลาดเย็นนี้อยู่ที่ระดับ 31.23 บาท/ดอลลาร์ อ่อนค่า เล็กน้อยจากช่วงเช้าที่เปิดตลาดที่ระดับ 31.19 บาท/ดอลลาร์

เย็นนี้เงินบาทปรับตัวอ่อนค่าตามสกุลเงินหลักในภูมิภาค โดยเฉพาะเงินหยวนของจีนที่อ่อนค่าลงไปมาก หลังจากล่าสุด วันนี้จีนได้ประกาศที่จะเรียกเก็บภาษีนำเข้าสินค้าจากสหรัฐฯ ในอัตรา 25% เพิ่มเติมอีก 106 รายการ อย่างไรก็ดี คาดว่าปริมาณ การซื้อขายวันพรุ่งนี้คงจะไม่มากนัก เนื่องจากใกล้ช่วงวันหยุดต่อเนื่องปลายสัปดาห์

"วันนี้บาทอ่อนตามภูมิภาค โดยเฉพาะเงินหยวนที่อ่อนไปค่อนข้างแรง หลังจีนตอบโต้สหรัฐฯ อีกระลอกด้วยการประกาศ ขึ้นภาษีนำเข้าสินค้าของสหรัฐฯ อีก 106 รายการ ส่วนพรุ่งนี้ flow ในตลาดน่าจะเบาบาง คาดว่าผู้เล่นในประเทศเริ่มจะหยุดกัน แล้ว" นักบริหารเงินระบุ

นักบริหารเงิน คาดว่า พรุ่งนี้เงินบาทจะเคลื่อนไหวในกรอบ 31.10-31.30 บาท/ดอลลาร์

  • ปัจจัยสำคัญ
  • ช่วงเย็นนี้เงินเยนอยู่ที่ระดับ 106.13 เยน/ดอลลาร์ จากช่วงเช้าที่ระดับ 106.49 เยน/ดอลลาร์
  • ส่วนเงินยูโรอยู่ที่ระดับ 1.2278 ดอลลาร์/ยูโร จากช่วงเช้าที่ระดับ 1.2278 ดอลลาร์/ยูโร
  • ดัชนี SET ปิดวันนี้ที่ระดับ 1,724.98 จุด ลดลง 40.26 จุด (-2.28%) มูลค่าการซื้อขาย 93,161 ล้านบาท
  • สรุปปริมาณการซื้อขายรายกลุ่ม ต่างชาติซื้อสุทธิ 200.47 ลบ.(SET+MAI)
  • นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี กล่าวในระหว่างการตรวจเยี่ยมและมอบนโยบายผู้บริหารกระทรวง
อุตสาหกรรมว่า ในช่วงเวลาที่เหลือของรัฐบาล 1 ปีจากนี้ ขอให้ทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในการพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาด
ย่อม(SME) ต้องเดินหน้าสร้างฐานในการพัฒนา SME ให้มีความพร้อมและวางรากฐานเพื่อให้รัฐบาลใหม่สามารถเข้ามาสานต่อได้
และจะมาติดตามความคืบหน้าการทำงานในอีก 3 เดือนข้างหน้า
  • นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี กล่าวในระหว่างการตรวจเยี่ยมและมอบนโยบายผู้บริหารกระทรวง
อุตสาหกรรมว่า ในช่วงเวลาที่เหลือของรัฐบาล 1 ปีจากนี้ ขอให้ทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในการพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาด
ย่อม(SME) ต้องเดินหน้าสร้างฐานในการพัฒนา SME ให้มีความพร้อมและวางรากฐานเพื่อให้รัฐบาลใหม่สามารถเข้ามาสานต่อได้
และจะมาติดตามความคืบหน้าการทำงานในอีก 3 เดือนข้างหน้า
  • ธนาคารกสิกรไทย (KBANK) แจ้งว่า ที่ประชุมคณะกรรมการธนาคารวันที่ 4 เม.ย.มีมติอนุมัติการปรับเป้าหมายทาง
การเงินของธนาคารในส่วนการเติบโตของรายได้ที่มิใช่ดอกเบี้ย (Non-Interest Income Growth) สำหรับปี 61 เป็นหดตัว -
6 ถึง -8% จากก่อนหน้าคาดว่าจะทรงตัวจากปีก่อน ทั้งนี้ เพื่อให้สอดคล้องกับสถานการณ์ปัจจุบันและสภาวะเศรษฐกิจ
  • ธนาคารทิสโก้ ประกาศยกเว้นค่าธรรมเนียมธุรกรรมทางการเงินผ่านช่องทาง TISCO Mobile Banking (แอพพลิ
เคชั่นบนโทรศัพท์มือถือ) ได้แก่ การโอนเงินต่างธนาคาร (ORFT) โอนข้ามเขต โอนเงินพร้อมเพย์ และชำระสินค้าและบริการ
ตั้งแต่วันที่ 5 เมษายน 2561 เป็นต้นไป
  • สำนักงานสถิติแห่งสหภาพยุโรป (ยูโรสแตท) เปิดเผยว่า ดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) เบื้องต้นของยูโรโซนในเดือน
มี.ค. ปรับตัวขึ้นสู่ระดับ 1.4% เมื่อเทียบรายปี โดยเพิ่มขึ้นจากระดับ 1.1% ในเดือนก.พ.
  • สำนักงานผู้แทนการค้าสหรัฐ (USTR) ได้เปิดเผยรายการสินค้าของจีนที่จะถูกเรียกเก็บภาษีนำเข้า คิดเป็นวงเงิน
รวม 5 หมื่นล้านดอลลาร์ โดยมีเป้าหมายที่จะบีบให้จีนผ่อนปรนกฎระเบียบด้านการค้าและการลงทุน อย่างไรก็ตาม มาตรการดังกล่าว
ยังไม่มีผลบังคับใช้ในทันที
  • กระทรวงการคลังจีนได้เปิดเผยรายการสินค้าของสหรัฐที่จะถูกเรียกเก็บภาษีนำเข้าในวงเงิน 5 หมื่นล้านดอลลาร์
สหรัฐ ซึ่งประกอบด้วยสินค้า 106 รายการใน 14 หมวดสินค้า รวมถึงถั่วเหลือง ยานยนต์ และเคมีภัณฑ์
  • รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลังของจีน ได้แถลงว่า จีนและสหรัฐควรหามาตรการที่สร้างสรรค์ในการจัดการกับ
ปัญหาและความท้าทาย เพื่อให้ความสัมพันธ์ทางเศรษฐกิจระหว่างสองประเทศมีความแข็งแกร่งและมั่นคง
  • ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) สาขามินนีแอโพลิส กล่าวว่า การที่คณะทำงานของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์
ตัดสินใจประกาศสงครามการค้ากับจีนนั้น สะท้อนให้เห็นว่า รัฐบาลสหรัฐกำลังเล่นเกมที่ก่อให้เกิดความเสี่ยง พร้อมกับตั้งคำถามว่า
เพราะเหตุใดรัฐบาลจึงตัดสินใจเช่นนั้น

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ