ศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย เปิดเผยว่า ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคในเดือน มี.ค.61 อยู่ที่ 79.9 จาก 79.3 ในเดือน ก.พ.61 ขณะที่ดัชนีความเชื่อมั่นต่อเศรษฐกิจโดยรวมอยู่ที่ 66.8 จาก 66.1 ในเดือน ก.พ.61
ส่วนดัชนีความเชื่อมั่นเกี่ยวกับโอกาสการหางานทำอยู่ที่ 74.9 จาก 74.2 และดัชนีความเชื่อมั่นเกี่ยวกับรายได้ในอนาคตอยู่ที่ 98.0 จาก 97.4
ทั้งนี้ ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคในเดือน มี.ค.ปรับตัวดีขึ้นตามการส่งออกและท่องเที่ยว โดยมีปัจจัยบวก ประกอบด้วย คณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) คงดอกเบี้ย 1.5% และได้ปรับเพิ่มคาดการณ์อัตราการขยายตัวทางเศรษฐกิจ (GDP) ปี 61 เป็น 4.1% จากเดิมที่คาดไว้ 3.9%, การส่งออกเดือน ก.พ.เพิ่มขึ้น 10.26%, การปรับขึ้นค่าจ้างขั้นต่ำ ซึ่งส่งผลให้ผู้ใช้แรงงานคาดว่าจะมีรายได้เพิ่มขึ้นในอนาคต, เงินบาทปรับตัวแข็งค่าขึ้นเล็กน้อย
ขณะที่ปัจจัยลบ ประกอบด้วย ความกังวลเสถียรภาพทางการเมืองที่อาจมีการเลื่อนการเลือกตั้งออกไปกระทบกับความเชื่อมั่นประชาชนและนักลงทุน, ราคาขายปลีกน้ำมันในประเทศปรับตัวเพิ่มขึ้น, ความกังวลผู้บริโภคเกี่ยวกับปัญหาค่าครองชีพและราคาสินค้าที่ทรงตัวอยู่ในระดับสูง, ความกังวลการแข็งค่าของเงินบาทอย่างรวดเร้ว รวมถึงผลกระทบจากสงครามการค้าระหว่างสหรัฐและจีนที่อาจมีผลต่อการส่งออกและเศรษฐกิจไทยในอนาคต