นายดรุณ แสงฉาย อธิบดีกรมท่าอากาศยาน (อทย.) เปิดเผยว่า กรมท่าอากาศยานได้กำชับให้ทุกท่าอากาศยาน พร้อมรับผู้โดยสารในช่วงเทศกาลสงกรานต์ และเตรียมแผนอำนวยความสะดวกและปลอดภัยของประชาชนตามนโยบายของนายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รมว.คมนาคม พร้อมทั้งรณรงค์การขับขี่อย่างปลอดภัย ตาม Campaign "ขับช้า เปิดไฟหน้า คาดเข็มขัด" ตลอดจนกำชับให้เจ้าหน้าที่ให้บริการแก่ผู้โดยสาร ภายใต้นโยบายของกรมท่าอากาศยาน ดังสโลแกน "ยิ้มแย้มยินดี สุขขีที่บ้านเรา" ควบคู่กับมาตรฐานความปลอดภัยด้านการบินทุกท่าอากาศยานที่อยู่ในความดูแลของกรมท่าอากาศยาน จำนวน 28 แห่ง
โดยเมื่อวานนี้ (4 เม.ย.) ได้ลงพื้นที่ตรวจความพร้อมและติดตามแผนพัฒนาท่าอากาศยานตรัง และได้ประชุมมอบนโยบาย การให้บริการผู้โดยสารช่วงเทศกาลสงกรานต์ การตรวจสอบอุปกรณ์การอำนวยความสะดวก มาตรการการรักษาความปลอดภัยภายในท่าอากาศยาน มีการเฝ้าระวัง ตลอดการให้บริการ รวมถึงได้ติดตามความคืบหน้า โครงการจ้างที่ปรึกษาติดตามผลกระทบสิ่งแวดล้อมเพื่อต่อความยาวทางวิ่งจากเดิม 2,100 เมตร เป็น 3,000 เมตร วงเงินงบประมาณ 3 ล้านบาท โครงการจัดหาและติดตั้งเครื่องตรวจอาวุธและวัตถุระเบิด (EDS) พร้อมสายพานลำเลียงสัมภาระ ห้องควบคุมและอุปกรณ์ วงเงินงบประมาณ 110.58 ล้านบาท โครงการปรับปรุงภูมิทัศน์ วงเงินงบประมาณ 3.79 ล้านบาท และโครงการปรับปรุงต่อเติมอาคารที่พักผู้โดยสาร วงเงินงบประมาณ 116.06 ล้านบาท
พร้อมกันนี้อทย. ได้ลงพื้นที่ตรวจการจัดระบบรถสาธารณะในการอำนวยความสะดวกให้ผู้ใช้บริการ เพื่อเพิ่มอีกทางเลือกหนึ่งให้ผู้ใช้บริการ โดยมีหจก.ท่ากลางเดินรถ เป็นผู้ได้รับอนุญาตให้เดินรถสาธารณะ เส้นทางท่าอากาศยานตรัง - ตัวเมือง
ปัจจุบัน ท่าอากาศยานตรัง มีขนาดทางวิ่งยาว 2,100 เมตร และกว้าง 45 เมตร สามารถรองรับอากาศยานเครื่องบินขนาด B737 ได้ 4 ลำในเวลาเดียวกัน สำหรับอาคารที่พักผู้โดยสารสามารถรองรับผู้โดยสารขาเข้า- ขาออก ในชั่วโมงเร่งด่วน 300 คนต่อชั่วโมง สายการบิน จำนวน 3 สายการบินที่เปิดให้บริการในเส้นทาง กรุงเทพฯ (ดอนเมือง)- ตรัง-กรุงเทพฯ(ดอนเมือง) ได้แก่ สายการบินไทยไลอ้อนแอร์ เปิดให้บริการ 3 เที่ยวบินต่อวัน , สายการบินไทยแอร์เอเชีย เปิดให้บริการ 3 เที่ยวบินต่อวันและสายการบินนกแอร์ เปิดให้บริการ 1 เที่ยวบินต่อวัน รวม 7 เที่ยวบิน (ไป-กลับ)ต่อวัน
นอกจากนี้ยังได้เดินทางไปประชุมร่วมกับทางจังหวัดกระบี่เพื่อเตรียมการต้อนรับผู้โดยสารช่วงเทศกาลสงกรานต์ และบูรณาการการทำงานร่วมกับทางจังหวัด และลงพื้นตรวจการบริหารจัดการท่าอากาศยาน รถสาธารณะ ณ ท่าอากาศยานกระบี่