(เพิ่มเติม) ภาวะตลาดเงินบาท: เปิด 31.24 แนวโน้มแกว่งแคบ-วอลุ่มเบาบางก่อนหยุดยาว รอความชัดเจนประเด็นสงครามการค้าสหรัฐฯและจีน

ข่าวเศรษฐกิจ Monday April 9, 2018 14:41 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นักบริหารเงินจากธนาคารซีไอเอ็มบี ไทย เปิดเผยว่า เงินบาทเปิดตลาดเช้านี้อยู่ที่ระดับ 31.24 บาท/ดอลลาร์ จาก เย็นวันพฤหัสที่ปิดตลาดที่ระดับ 31.23 บาท/ดอลลาร์

วันนี้คาดว่าเงินบาทจะเคลื่อนไหวอยู่ในกรอบแคบ เนื่องจากการซื้อขายของนักลงทุนในประเทศเบาบาง เพราะใกล้ช่วง วันหยุดยาวในเทศกาลสงกรานต์ ในขณะที่ปัจจัยต่างประเทศยังคงต้องติดตามการตอบโต้ทางการค้าระหว่างสหรัฐฯและจีน ว่าจะ ทยอยใช้มาตรการทางภาษีเพิ่มเติมอีกหรือไม่

"วันนี้คาดว่าบาทจะแกว่งแคบๆ เพราะนักลงทุน local ก็เริ่มทยอยหายไป อาจเป็นเพราะใกล้วันหยุดยาว ข้อมูล เศรษฐกิจสหรัฐช่วงนี้ยังไม่มีอะไรน่าสนใจมาก แต่ยังต้องติดตามกรณีของสหรัฐฯ กับจีน ว่าจะมีมาตรการตอบโต้อะไรออกมาเพิ่มเติ มอีก" นักบริหารเงินระบุ

นักบริหารเงิน คาดว่า วันนี้เงินบาทจะเคลื่อนไหวในกรอบ 31.15-31.30 บาท/ดอลลาร์

THAI BAHT FIX 3M (5 เม.ย.) อยู่ที่ระดับ 1.12337% ส่วน THAI BAHT FIX 6M (5 เม.ย.) อยู่ที่ระดับ 1.22912%

SPOT ล่าสุดอยู่ที่ระดับ 31.2550 บาท/ดอลลาร์

  • ปัจจัยสำคัญ
  • เช้านี้เงินเยนอยู่ที่ระดับ 106.92 เยน/ดอลลาร์ จากเย็นวันพฤหัสที่ 106.13 เยน/ดอลลาร์
  • ส่วนเงินยูโรอยู่ที่ระดับ 1.2271 ดอลลาร์/ยูโร จากเย็นวันพฤหัสที่ 1.2278 ดอลลาร์/ยูโร
  • อัตราแลกเปลี่ยนเงินบาท/ดอลลาร์ ถัวเฉลี่ยถ่วงน้ำหนักระหว่างธนาคารของ ธปท.อยู่ที่ระดับ 31.2110 บาท/
ดอลลาร์
  • ธนาคารกสิกรไทย ประเมินกรอบการเคลื่อนไหวของเงินบาทสำหรับสัปดาห์นี้ (9-12 เม.ย.) ที่ 31.05-31.35
บาทต่อดอลลาร์ฯ โดยอาจต้องจับตาความคืบหน้าเกี่ยวกับการเจรจาในประเด็นทางการค้าของสหรัฐฯ และจีน รวมถึงรายงาน
นโยบายอัตราแลกเปลี่ยนของประเทศคู่ค้าสำคัญของสหรัฐฯ ที่อาจจะมีการเปิดเผยออกมาด้วยเช่นกัน

ขณะที่ข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐฯ ที่สำคัญ ได้แก่ ดัชนีราคาผู้ผลิต ดัชนีราคาผู้บริโภค ดัชนีราคาส่งออกนำเข้าเดือนมี.ค. และดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคเดือนเม.ย. (เบื้องต้น) นอกจากนี้ ตลาดอาจรอติดตามข้อมูลเศรษฐกิจเดือนมี.ค. ของจีน รวมถึง รายงานการประชุมเฟดเมื่อเดือนมี.ค.และถ้อยแถลงของเจ้าหน้าที่เฟดเพื่อประเมินสัญญาณเกี่ยวกับทิศทางอัตราดอกเบี้ยนโยบายของ สหรัฐฯ

  • สงครามการค้าสหรัฐฯ-จีนเพิ่มอุณหภูมิเดือด หลัง "ทรัมป์" สั่งยูเอสทีอาร์ขึ้นภาษีสินค้าจีนอีกระลอกใหญ่ ค่ากว่า 1
แสนล้านดอลล์ ทูตพาณิชย์ชี้ 6 หมวดสินค้าส่อกระทบส่งออกไปจีนได้ลดลง สรท.ฟันธงเหล็ก เครื่องใช้ไฟฟ้า เสื้อผ้าจีนทะลักตีตลาด
ไทย-อาเซียนแน่ ตลาดทุนประเมิน 3 ทางออกสงครามการค้าสหรัฐอเมริกา-จีนเพิ่มความร้อนขึ้นทุกขณะ
  • ศูนย์พยากรณ์ฯ ม.หอการค้า คาดสงครามการค้าจีนกับสหรัฐฯ ไม่บานปลาย เชื่อสุดท้ายเข้าสู่โต๊ะเจรจา ขณะที่ดัชนี
ความเชื่อมั่นผู้บริโภคเดือนมีนาคม เริ่มกระเตื้อง อยู่ที่ระดับ 79.9 ปรับตัวขึ้นตามทิศทางเศรษฐกิจที่เริ่มฟื้นตัว
  • ธนาคารไทยพาณิชย์ ทยอยปิดแล้ว 7 สาขา เป้าทั้งปีปิด 200 แห่ง เน้นสาขาดั้งเดิม คนใช้บริการน้อย เผยธุรกรรม
สาขาลดลง 6.3% ขณะธุรกรรมออนไลน์พุ่ง 187% ด้าน 3 แบงก์ใหญ่ "กสิกร-กรุงเทพ-กรุงศรี" สวนกระแสเปิดสาขาเพิ่ม ส่งผล
ภาพรวมสาขาแบงก์ 2 เดือนแรกปีนี้เพิ่มขึ้น 5 แห่ง
  • กระทรวงแรงงานสหรัฐรายงานว่า ตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรเพิ่มขึ้นน้อยกว่าคาดในเดือนมี.ค. โดยเพิ่มขึ้น
เพียง 103,000 ตำแหน่ง ซึ่งเป็นตัวเลขต่ำที่สุดในรอบ 6 เดือน ขณะที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่าจะเพิ่มขึ้น 193,000 ตำแหน่ง หลัง
จากที่พุ่งขึ้น 326,000 ตำแหน่งในเดือนก.พ.
  • นายเจอโรม พาวเวล ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ได้กล่าวสุนทรพจน์ที่เมืองชิคาโกเมื่อวันศุกร์ว่า เฟดควร
เดินหน้าปรับขึ้นดอกเบี้ยอย่างค่อยเป็นค่อยไป เมื่อประเมินจากทิศทางเศรษฐกิจที่คาดว่าจะขยายตัวอย่างต่อเนื่อง
  • ดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักอื่นๆส่วนใหญ่ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กเมื่อวัน
ศุกร์ (6 เม.ย.) โดยได้รับผลกระทบจากความกังวลเกี่ยวกับการที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ เปิดศึกการค้ากับจีนรอบใหม่ และ
การเปิดเผยตัวเลขการจ้างงานของสหรัฐที่ซบเซา
  • สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดเพิ่มขึ้นเมื่อวันศุกรฺ์ (6 เม.ย.) เนื่องจากนักลงทุนได้หันมาซื้อทองคำซึ่งเป็นสินทรัพย์
ปลอดภัย ท่ามกลางความกังวลเกี่ยวกับการทำสงครามการค้าระหว่างสหรัฐและจีน นอกจากนี้ ราคาทองยังได้ปัจจัยบวกจากการอ่อน
ค่าของดอลลาร์ และการเปิดเผยตัวเลขการจ้างงานของสหรัฐที่ซบเซา โดยสัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange)
ส่งมอบเดือนมิ.ย. เพิ่มขึ้น 7.6 ดอลลาร์ หรือ 0.57% ปิดที่ 1,336.1 ดอลลาร์/ออนซ์
  • ตลาดการเงินจับตาคณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐ (FOMC) เตรียมเปิดเผยรายงาน
การประชุมประจำวันที่ 20-21 มี.ค. ในวันพุธนี้ และกระทรวงแรงงานสหรัฐจะเปิดเผยดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) เดือนมี.ค. ใน
วันพุธนี้เช่นกัน โดยข้อมูลดังกล่าวจะเป็นสัญญาณที่บ่งชี้ทิศทางการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยครั้งต่อไปของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) หลัง
จากที่ประชุมเฟดมีมติปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยระยะสั้น 0.25% ในการประชุมเดือนมี.ค.ที่ผ่านมา
  • นักลงทุนยังจับตาการกล่าวสุนทรพจน์ของประธานเฟดสาขาต่างๆในสัปดาห์นี้ ซึ่งรวมถึงนายโรเบิร์ต แคปแลน
ประธานเฟดสาขาดัลลัส, นายนีล แคชคารี ประธานเฟดสาขาสาขาดัลลัส, นายเอริค โรเซนเกรน ประธานเฟดสาขาบอสตัน และ
เจมส์ บุลลาร์ด ประธานเฟดสาขาเซนต์หลุยส์

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ