นายเลียม ฟ็อกซ์ รมว.การค้าระหว่างประเทศของสหราชอาณาจักร ได้เข้าพบนายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ รมว.พาณิชย์ เมื่อวันที่ 5 เม.ย.เนื่องในโอกาสเดินทางเยือนประเทศไทย โดยใช้โอกาสนี้กระชับความสัมพันธ์ทางการค้าระหว่างกัน พร้อมย้ำการค้าต้องราบรื่นต่อเนื่องแม้สหราชอาณาจักรออกจากสหภาพยุโรป (อียู) สิ้นปี 2563
ด้านนายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ รมว.พาณิชย์ เปิดเผยหลังการพบหารือนายเลียม ฟ็อกซ์ รมว.การค้าระหว่างประเทศสหราชอาณาจักรว่า สหราชอาณาจักร ให้ความสำคัญกับการกระชับความสัมพันธ์ทางการค้าและการลงทุนกับไทย โดยปัจจุบัน สหราชอาณาจักรอยู่ระหว่างการเจรจากับอียูเรื่องความสัมพันธ์ในอนาคต และช่วงระหว่างสิ้นเดือนมีนาคม 2562 ถึงสิ้นเดือนธันวาคม 2563 จะถือเป็นช่วงเปลี่ยนผ่านที่สหราชอาณาจักรจะต้องเตรียมการเพื่อออกจากอียูและเจรจากับประเทศอื่นๆ เพื่อจัดทำข้อตกลงทางการค้าไปพร้อมกัน โดยสหราชอาณาจักรเห็นความสำคัญของไทยในฐานะศูนย์กลางการค้าในภูมิภาค จึงต้องการกระชับความสัมพันธ์ด้วย
ขณะที่ไทยย้ำว่า สหราชอาณาจักรเป็นตลาดหลักในทวีปยุโรปและเป็นคู่ค้าที่สำคัญ โดยมีแนวโน้มการลงทุนของไทยในสหราชอาณาจักรเพิ่มขึ้น และต้องการเชิญชวนให้สหราชอาณาจักรขยายการลงทุนในเขตระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก (Eastern Economic Corridor: EEC) ของไทย โดยเฉพาะในอุตสาหกรรมใหม่ๆ ที่สหราชอาณาจักรเชี่ยวชาญ เช่น โครงสร้างพื้นฐาน และอากาศยาน ตลอดจนแลกเปลี่ยนองค์ความรู้และร่วมมือในธุรกิจสตาร์ทอัพ SMEs และเศรษฐกิจสร้างสรรค์กับไทย เป็นต้น ซึ่งทั้งสองฝ่ายเห็นว่าน่าจะใช้เวทีสภาผู้นำนักธุรกิจไทย-สหราชอาณาจักร (Thai-UK Business Leadership Council) ที่มีอยู่เป็นจุดเริ่มต้นได้
นายสนธิรัตน์ กล่าวว่า ได้ใช้โอกาสนี้หารือเรื่องการคงไว้ซึ่งผลประโยชน์ของไทยจากสหราชอาณาจักรภายใต้การเป็นสมาชิกอียู ซึ่งสหราชอาณาจักรพร้อมที่จะดูแลและยังคงดำเนินการค้ากับไทยให้ราบรื่นแม้จะออกจากการเป็นสมาชิกอียู ทั้งนี้ ปัจจุบันอียูกำหนดโควตาภาษีสินค้านำเข้าจากไทยบางชนิด เช่น ไก่ ข้าว มันสำปะหลัง เป็นต้น ดังนั้น ไทยจึงเตรียมพร้อมเจรจากับสหราชอาณาจักรเรื่องการจัดสรรโควตานำเข้าสินค้าเหล่านี้จากไทย เพื่อรักษาผลประโยชน์การค้าของไทยในการส่งออกไปยังสหราชอาณาจักร
ทั้งนี้ สหราชอาณาจักรเป็นคู่ค้าอันดับ 18 ของไทย โดยในปี 2560 มีมูลค่าการค้ารวม 7,019 ล้านเหรียญสหรัฐ เพิ่มขึ้นจากปีก่อนหน้า 19.7% การส่งออกมีมูลค่า 4,079.21 ล้านเหรียญสหรัฐ สินค้าส่งออกสำคัญ ได้แก่ รถยนต์และอุปกรณ์, ไก่แปรรูป, รถจักรยานยนต์และส่วนประกอบ, อากาศยาน, อัญมณีและเครื่องประดับ, แผงวงจรไฟฟ้า ส่วนการนำเข้ามีมูลค่า 2,940.69 ล้านเหรียญสหรัฐ สินค้านำเข้าสำคัญ ได้แก่ เครื่องจักรกลและส่วนประกอบ แผงวงจรไฟฟ้า น้ำมันดิบ เครื่องดื่ม ผลิตภัณฑ์เวชกรรมและเภสัชกรรม เคมีภัณฑ์ และในปี 2560 ไทยไปลงทุนในสหราชอาณาจักรมูลค่าประมาณ 3,770 ล้านเหรียญสหรัฐ ขณะที่สหราชอาณาจักรมีการมาลงทุนในไทยมูลค่าประมาณ 990 ล้านเหรียญสหรัฐ