ภาวะตลาดเงินบาท: เปิด 31.18 แข็งค่าหลังดอลล์อ่อน ตลาดคลายกังวลปัญหาสงครามการค้าจีน-สหรัฐฯ

ข่าวเศรษฐกิจ Wednesday April 11, 2018 09:24 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นักบริหารเงินจากธนาคารซีไอเอ็มบี ไทย เปิดเผยว่า เงินบาทเปิดตลาดเช้านี้อยู่ที่ระดับ 31.18 บาท/ดอลลาร์ จาก ปิดตลาดเย็นวานนี้ที่ระดับ 31.22 บาท/ดอลลาร์

เช้านี้เงินบาทปรับตัวแข็งค่าขึ้นตามเงินหยวน หลังจากที่ประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ของจีน ได้กล่าวสุนทรพจน์ในที่ประชุม BFA ด้วยการส่งสัญญาณการเปิดกว้างให้ต่างชาติเข้าถึงตลาดจีนมากขึ้น รวมถึงแนวโน้มการปรับลดภาษีนำเข้ารถยนต์ และจะเพิ่มการ ปกป้องทรัพย์สินทางปัญญาของบริษัทต่างชาติ ซึ่งทำให้ตลาดคลายกังวลปัญหาสงครามการค้าระหว่างจีนกับสหรัฐฯ

"การกล่าวสุนทรพจน์ของประธานาธิบดีสี จิ้นผิง สร้างความพอใจให้ทรัมป์ จนต้องทวีตข้อความขอบคุณ สถานการณ์นี้ทำ ให้ตลาดคลายกังวลเรื่องสงครามการค้า และทำให้นักลงทุนขายดอลลาร์สหรัฐ และสินทรัพย์ปลอดภัยอื่นๆ เพื่อเข้าซื้อหุ้นแทน จึงทำให้ ดอลลาร์ปรับตัวอ่อนค่าลง" นักบริหารเงินระบุ

นักบริหารเงิน คาดว่า ตลอดสัปดาห์นี้เงินบาทจะยังเคลื่อนไหวในกรอบ 31.10-31.30 บาท/ดอลลาร์ ในขณะที่ปริมาณ การซื้อขายจะยังเบาบางตลอดทั้งสัปดาห์ เนื่องจากเข้าสู่ช่วงวันหยุดยาว

THAI BAHT FIX 3M (10 เม.ย.) อยู่ที่ระดับ 1.14404% ส่วน THAI BAHT FIX 6M อยู่ที่ระดับ 1.24061%

  • ปัจจัยสำคัญ
  • เช้านี้เงินเยนอยู่ที่ระดับ 107.09 เยน/ดอลลาร์ จากเย็นวานนี้ที่ระดับ 107.02 เยน/ดอลลาร์
  • ส่วนเงินยูโรอยู่ที่ระดับ 1.2357 ดอลลาร์/ยูโร จากเย็นวานนี้ที่ระดับ 1.2322 ดอลลาร์/ยูโร
  • อัตราแลกเปลี่ยนเงินบาท/ดอลลาร์ ถัวเฉลี่ยถ่วงน้ำหนักระหว่างธนาคารของธปท.อยู่ที่ระดับ 31.2370 บาท/
ดอลลาร์
  • สมาคมตลาดตราสารหนี้ไทย (ThaiBMA) กล่าวว่า ภาวะตลาดตราสารหนี้ไทยในไตรมาสแรกของปี 61 ยังคงเติบ
โตได้ดีมีมูลค่าคงค้างรวม 11.77 ล้านล้านบาท เพิ่มขึ้น 1.8% จาก 11.56 ล้านล้านบาทเมื่อสิ้นปีที่ผ่านมา ส่วนทั้งปีคาดเอกชนจะมี
การออกหุ้นกู้ราว 6-6.5 แสนล้านบาท จากระดับ 8.3 แสนล้านบาทในปีก่อน โดยยังไม่รวมกับเอกชนรายใหญ่ที่อาจจะมีการเข้าซื้อ
กิจการ หรือดีลใหม่ ๆ ที่อาจจะเกิดขึ้น
  • ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) เผยแพร่ผลสำรวจความคิดเห็นผู้บริหารบริษัทจดทะเบียน (CEO
Survey): Economic outlook ในช่วง 6 เดือนแรกของปี 61 พบว่า ผู้บริหารบริษัทจดทะเบียน (CEO) คาดว่าเศรษฐกิจไทยใน
ปีนี้มีแนวโน้มดีขึ้น โดยเติบโตในช่วง 3-4% มีปัจจัยด้านการท่องเที่ยว นโยบายการคลังและการใช้จ่ายภาครัฐ และเสถียรภาพของ
การเมืองในประเทศ และกำลังซื้อภายในประเทศ เป็นปัจจัยสนับสนุนสำคัญต่อการเติบโตของเศรษฐกิจไทยในช่วงครึ่งแรกของปีนี้

ขณะที่ปัจจัยเสี่ยงสำคัญในช่วงครึ่งปีแรกของปี 61 ประกอบด้วย ความผันผวนของค่าเงินบาท เสถียรภาพของการเมือง ในประเทศ และอัตราค่าแรงที่สูงขึ้น

  • ธนาคารไทยพาณิชย์ ภายใต้การดำเนินงานของดิจิทัล เวนเจอร์ส บริษัทในเครือด้านการลงทุนและการค้นคว้านวัต
กรรมการเงิน ประกาศการลงทุนใน 1QBit ผู้พัฒนาซอฟต์แวร์ด้านเทคโนโลยีควอนตัมและควอนตัมคอมพิวเตอร์จากแวนคูเวอร์
แคนาดา ขึ้นแท่นธนาคารแห่งแรกในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ที่ริเริ่มบุกเบิกกลยุทธ์การลงทุนในเทคโนโลยีควอนตัม และพร้อมศึกษา
การนำเทคโนโลยีนี้มาใช้ในอุตสาหกรรมการเงิน
  • เลขาธิการคณะกรรมการนโยบายการพัฒนาระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก (สกรศ.) พร้อมด้วยสำนักงาน
เศรษฐกิจการลงทุน ณ นครเซี่ยงไฮ้, บมจ.กสท โทรคมนาคม (CAT) และ สำนักงานส่งเสริมเขตนวัตกรรมดิจิทัล (DEPA) ร่วมกัน
เดินทางไปชักชวนนักลงทุนจีนด้วยการจัดงาน Roadshow EEC ตามแผนการดำเนินงานที่วางไว้เพื่อผลักดันให้เกิดการลงทุนจากนักลง
ทุนจีนที่มีศักยภาพในพื้นที่ระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก (EEC) อย่างเป็นรูปธรรมโดยเร็ว
  • ธนาคารเพื่อการพัฒนาแห่งเอเชีย (ADB) ได้ปรับเพิ่มคาดการณ์การขยายตัวของเศรษฐกิจในปี 2561 ของกลุ่ม
ประเทศกำลังพัฒนาในเอเชีย สู่ระดับ 6.0% จากระดับ 5.8% โดยได้ปัจจัยหนุนจากอุปสงค์การส่งออกที่แข็งแกร่ง อย่างไรก็ตาม
ADB เตือนว่า มาตรการกีดกันทางการค้าของสหรัฐ และมาตรการตอบโต้ต่างๆ อาจสร้างความเสียหายต่อการค้าโลก
  • กระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยว่า ดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) ดีดตัวขึ้น 0.3% ในเดือนมี.ค.เมื่อเทียบรายเดือน หลัง
จากเพิ่มขึ้น 0.2% ในเดือนก.พ.
  • ผู้ว่าการธนาคารกลางจีนได้ขึ้นกล่าวสุนทรพจน์ในการประชุมโป๋อ่าว ฟอรั่ม ฟอร์ เอเชีย (BFA) ที่มณฑลไห่หนานของ
จีน ในวันนี้ โดยกล่าวว่า ธนาคารกลางจีนจะเดินหน้านโยบายการเงินอย่างรอบคอบต่อไป
  • ดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักๆ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กเมื่อคืนนี้ (10 เม.
ย.) เนื่องจากนักลงทุนหันไปซื้อสินทรัพย์เสี่ยงที่ให้ผลตอบแทนสูงกว่า เช่นสกุลเงินยูโรและดอลลาร์ออสเตรเลีย หลังจากข้อพิพาทด้าน
การค้าระหว่างสหรัฐและจีนเริ่มคลี่คลายลง
  • สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดบวกเมื่อคืนนี้ (10 เม.ย.) เนื่องจากสถานการณ์ตึงเครียดในซีเรียได้ส่งผลให้นักลงทุน
เข้าซื้อทองคำซึ่งเป็นสินทรัพย์ที่ปลอดภัย นอกจากนี้ การอ่อนค่าของสกุลเงินดอลลาร์ยังเพิ่มความน่าดึงดูดให้กับสัญญาทองคำเช่นกัน
  • นักลงทุนยังจับตารายงานการประชุมประจำวันที่ 20-21 มี.ค.ของเฟดในวันนี้ตามเวลาสหรัฐ และดัชนีราคาผู้
บริโภค (CPI) เดือนมี.ค. ซึ่งจะมีการเปิดเผยในวันนี้เช่นกัน โดยข้อมูลดังกล่าวจะเป็นสัญญาณที่บ่งชี้ทิศทางการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย
ครั้งต่อไปของเฟด หลังจากที่ประชุมเฟดมีมติปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยระยะสั้น 0.25% ในการประชุมเดือนมี.ค.
  • ข้อมูลเศรษฐกิจด้านอื่นๆของสหรัฐที่นักลงทุนให้ความสนใจในสัปดาห์นี้ ได้แก่ ราคานำเข้าและส่งออกเดือนมี.ค.,

จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ และดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคเบื้องต้นเดือนเม.ย.จากมหาวิทยาลัยมิชิแกน


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ