สำนักงานบริการข้อมูลข่าวสารเศรษฐกิจจีน สังกัดสำนักข่าวซินหัว ร่วมกับหอการค้าไทย-จีน และศูนย์บริการธุรกิจไทย-จีน จัดโครงการสัมมนาเชิงวิชาการภายใต้หัวข้อหลัก "สถานีต่อไป ไชน่า! เปิดประตูแดนมังกร เพื่อให้ผู้เข้าร่วมสัมมนาทราบถึงยุทธศาสตร์ "One Belt One Road" หรือหนึ่งแถบหนึ่งเส้นทาง ตลอดจนความรู้เกี่ยวกับอีคอมเมิร์ซจากจีน โอกาสในการเตรียมความพร้อมธุรกิจก่อนที่จะเข้าไปลงทุนในตลาดจีน รวมทั้งการสร้างเครือข่ายในการพัฒนาธุรกิจกับหน่วยงานของจีน และแนวทางในการสนับสนุนแหล่งเงินทุนจากจีน
จีน เป็นประเทศเศรษฐกิจขนาดใหญ่เป็นอันดับที่ 2 ของโลก และเป็นประเทศที่มีความโดดเด่นเป็นอย่างยิ่งในสถานการณ์เศรษฐกิจโลกในปัจจุบัน โดยเฉพาะอย่างยิ่งหลังจากที่จีนได้เปิดตัวยุทธศาสตร์ "One Belt One Road" ซึ่งตอกย้ำภาพลักษณ์การเป็นผู้นำของเศรษฐกิจโลก นับเป็นเวลากว่า 40 ปีแล้วที่จีนมีการพัฒนาอย่างรวดเร็ว และอีกหนึ่งธุรกิจที่มาแรงอย่างปฏิเสธไม่ได้ก็คือ "ธุรกิจอีคอมเมิร์ซ" ที่ได้นำความเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่มาสู่สังคมและเศรษฐกิจจีน จนทำให้จีนกลายเป็นตลาดอีคอมเมิร์ซที่ใหญ่ที่สุดในโลก และ JD.com ในฐานะยักษ์ใหญ่แห่งวงการอีคอมเมิร์ซของเอเชียที่เมื่อเร็วๆนี้ได้จับมือกับกลุ่มเซ็นทรัล เพื่อร่วมลงทุนและตั้งเป้ายกระดับไทยเป็นฮับอีคอมเมิร์ซแห่งอาเซียน ก็มีความพร้อมเป็นอย่างยิ่งที่จะมามอบสาระความรู้อย่างเต็มที่ให้กับบรรดาผู้ประกอบการและนักลงทุนในประเทศไทย
งานสัมมนาครั้งที่ 1 เปิดฉากที่หัวข้อ "นำธุรกิจไทยสู่ตลาดจีนโดย JD.COM" โดยมีนายวินสตัน เฉิง ประธานกรรมการฝ่ายต่างประเทศของบริษัท JD.com เว็บไซต์อีคอมเมิร์ซยักษ์ใหญ่ฉายา "อเมซอนแห่งจีน" มาเป็นผู้บรรยายมอบความรู้และเคล็ดลับในการทำธุรกิจกับจีน เพื่อนำผู้ประกอบการไทยสู่ความสำเร็จทางธุรกิจ ในวันที่ 10 พฤษภาคม 2561 ณ ห้องอายัท อบาโลน คอนเวนชั่น ฮอลล์, อาคาร Thai CC หอการค้าไทยจีน
ประเด็นการสัมมนาของ JD.com จะครอบคลุมประเด็นต่าง ๆ ดังนี้
- แนะนำ JD.com
- อีคอมเมิร์ซของ JD.com ในระดับสากล
- แนะนำแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซ
- เจาะลึกระบบโลจิสติกส์ของ JD.com
- อยากเปิดร้านใน JD.com ต้องทำอย่างไร
- ตัวอย่างผู้ประกอบการไทยที่ประสบความสำเร็จในจีน 2 บริษัท
- บทบาท JD.com ในระดับสากลและความร่วมมือ JD-Central
- แนวทางการเปิดร้านบน JD-Central
งานสัมมนาครั้งนี้จึงเป็นโอกาสอันดีที่จะทำให้ผู้ประกอบการไทยมีไอเดียใหม่ ๆ ได้ทราบเทคนิคดี ๆ ในการต่อยอดธุรกิจของตนในจีน ดังนั้น งานสัมมนา "สถานีต่อไป ไชน่า! เปิดประตูแดนมังกร" จึงเป็นงานสัมมนาที่ไม่ควรพลาดเป็นอย่างยิ่ง ผู้ที่สนใจจะเข้าร่วมงานสัมมนาครั้งนี้ สามารถลงทะเบียนได้ที่: http://www.infoquest.co.th/th/events/ โดยมีค่าใช้จ่ายในการเข้าร่วมสัมมนา ท่านละ 4,999 บาท พร้อมอาหารว่าง 1 มื้อ (ราคารวมภาษีมูลค่าเพิ่มแล้ว)
สำหรับหัวข้อการสัมมนาครั้งต่อไป จะประกอบด้วย ช่องทางการ PR ในจีนกับสุดยอด Search Engine ยักษ์ใหญ่อันดับ 1 ของจีน "Baidu", Logistics ไทยไปจีนในยุค Digital กับ SF Express, ตีแผ่ WeChat: ไลน์สายพันธุ์มังกร, ตีสนิทเจ้าพ่อ E-Commerce "Alibaba", Huawei วิเคราะห์เทรนด์ผู้บริโภคชาวจีนยุค 5G, ก้าวทัน AI นวัตกรรมแห่งอนาคตจีน, เตรียมตัวรุกตลาดจีนอย่างเซียน
ทั้งนี้ วินสตัน เฉิง ปัจจุบันดำรงตำแหน่งประธานกรรมการฝ่ายต่างประเทศของบริษัท JD.com รับผิดชอบงานด้านการริเริ่มธุรกิจระดับโลก รวมถึงการลงทุนในต่างประเทศและการควบรวมกิจการ ก่อนหน้าที่จะมาร่วมงานกับ JD.com นั้น เฉิง รั้งตำแหน่งรองประธานกรรมการอาวุโสและหัวหน้าฝ่ายการเงินและพัฒนาธุรกิจระดับโลก รวมถึงดำรงตำแหน่งรองประธานกรรมการคณะกรรมการการลงทุน ซึ่งรับผิดขอบในด้านการเงิน การลงทุน และการควบรวมกิจการ
เมื่อเดือนกันยายน 2556 เฉิง เคยร่วมงานกับ Bank of America Merrill Lynch ในตำแหน่งหัวหน้าฝ่ายเทคโนโลยีสื่อและโทรคมนาคม ขณะที่เมื่อปี 2550 เฉิง ดำรงตำแหน่งกรรมการผู้จัดการ หัวหน้าฝ่ายกลุ่มธุรกิจวาณิชธนกิจในเอเชียแต่ไม่รวมญี่ปุ่น และยังเป็นหัวหน้าฝ่ายกลุ่มผู้บริโภคค้าปลีกในเอเชียแต่ไม่รวมญี่ปุ่นที่ Goldman Sachs
นอกจากนี้ เฉิงยังได้ร่วมงานกับ Citi เป็นเวลามากกว่า 10 ปี ก่อนที่จะมาร่วมงานกับ Goldman Sachs และเมื่อปี 2539 เฉิงเริ่มทำงานด้านธุรกิจวาณิชธนกิจที่ Salmon Brothers เขาใช้ชีวิตการทำงานในแวดวงวาณิชธนกิจที่นิวยอร์ก, พาโล อัลโต และฮ่องกง เป็นเวลานานกว่า 20 ปี
เฉิง สำเร็จการศึกษาเมื่อปี 2538 จากมหาวิทยาลัยแคลิฟอร์เนีย เมืองเบิร์กลีย์ คณะบริหารธุรกิจ สาขาเศรษฐศาสตร์และภาษาจีน