นายอนุสรณ์ ธรรมใจ รองอธิการบดีฝ่ายวิจัยและบริการวิชาการ และ คณบดีคณะเศรษฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยรังสิต แสดงความเห็นผลกระทบของสงครามซีเรียต่อเศรษฐกิจโลกและเศรษฐกิจไทย ว่า อาจจะส่งผลทำให้ราคาน้ำมันดิบในตลาดโลกปรับตัวสูงขึ้นแตะระดับ 80- 100 ดอลลาร์ต่อบาร์เรลได้ อาจเป็นจุดสิ้นสุดของยุคราคาน้ำมันถูกซึ่งขณะนี้ราคาน้ำมันได้ปรับตัวสูงสุดในรอบ 3 ปีไปแล้ว โดยราคาน้ำมันล่วงหน้า Brent Crude ขึ้นไปแตะ 73 ดอลลาร์ต่อบาร์เรลสูงสุดนับตั้งแต่เดือนธันวาคม ปี ค.ศ. 2014 ราคาผลิตภัณฑ์ปิโตรเลียม ผลิตภัณฑ์ปิโตรเคมี ราคาขายปลีกน้ำมันปรับตัวสูงขึ้นไม่ต่ำกว่า 20% จากระดับปัจจุบันในช่วงหนึ่งเดือนข้างหน้า ราคาทองคำปรับตัวสูงขึ้นต่อเนื่องและสามารถปรับขึ้นได้อีก 10-15% พร้อมค่าเงินดอลลาร์สหรัฐอเมริกาแข็งค่าขึ้น มีความเสี่ยงที่สงครามซีเรียจะลุกลามยืดเยื้อนำไปสู่การเผชิญหน้าของรัสเซียและชาติตะวันตกหรือเกิดภาวะสงครามเย็นรอบใหม่ได้
ราคาพลังงานที่ปรับตัวสูงขึ้นจะส่งผลให้แรงกดดันเงินเฟ้อเพิ่มสูงขึ้นและทำให้อัตราการขยายตัวทางเศรษฐกิจของโลกและของไทยชะลอตัวลงในช่วงไตรมาสสอง ตลาดการเงินทั่วโลกน่าจะมีความผันผวนมากในช่วงสองสัปดาห์ข้างหน้า สงครามในซีเรียมีโอกาสลุกลามปานปลายสูงมากจึงส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจไทยในช่วงครึ่งปีหลังอย่างไม่อาจหลีกเลี่ยงได้น่าจะส่งผลทำให้อัตราการขยายตัวของภาคส่งออกไทยโดยเฉพาะการส่งออกไปภูมิภาคตะวันออกลางมีขีดจำกัด สงครามในซีเรียมีความซับซ้อนสูงเพราะเกี่ยวพันกับสงครามกลางเมืองในซีเรียระหว่างระบอบเผด็จการของประธานาธิบดีอัสซาดและฝ่ายประชาธิปไตย เกี่ยวพันกับความขัดแย้งเรื่องผลประโยชน์ธุรกิจอุตสาหกรรมพลังงานระหว่างรัสเซียกับชาติตะวันตกโดยเฉพาะสหรัฐอเมริกาเกี่ยวพันกับความขัดแย้งทางศาสนานิกายชีอะห์ (สนับสนุนโดยอิหร่าน) และ นิกายสุหนี่ (สนับสนุนโดยซาอุดิอารเบีย) เกี่ยวพันกับสงครามต่อสู้เพื่ออิสรภาพของชาวเคิร์ดจากตุรกีและซีเรียสงครามระหว่างขบวนการก่อการร้ายด้วยกัน ISIS กับ อัลเคดา
"หากสถานการณ์ในซีเรียไม่ขยายวงหรือบานปลายจะกระทบต่อราคาน้ำมันไม่มาก เพราะซีเรียผลิตน้ำมันดิบคิดเป็น 0.4% ของการผลิตทั่วโลก ความผันผวนของราคาน้ำมันจะเป็นผลจากปัจจัยทางด้านจิตวิทยาจากปัญหาความเสี่ยงภูมิรัฐศาสตร์เป็นหลักยังไม่กระทบต่ออุปทานของตลาดน้ำมันโลก"
อย่างไรก็ตาม สงครามในซีเรียมีโอกาสบานปลายและขยายวงสูงมาก จึงส่งผลกระทบต่อราคาพลังงานและเศรษฐกิจโลกมาก อัตราเงินเฟ้อที่ปรับตัวสูงขึ้นในช่วง ครึ่งปีหลังน่าจะส่งผลต่อการชะลอตัวของการบริโภคภายในประเทศได้ นอกจากนี้ ไทยควรสำรองน้ำมันเพิ่มขึ้นจากระดับ 36 วันหรือ 5% ของปริมาณใช้ทั้งปีซึ่งเป็นระดับปรกติตามกฎหมายในกรณีที่เหตุการณ์สงครามซีเรียบานปลายเพื่อให้ประชาชนมีน้ำมันใช้อย่างเพียงพอ หากเกิดเหตุการณ์นอกเหนือการคาดการณ์ขึ้นซึ่งอาจส่งผลต่ออุปทานน้ำมันใช้ในประเทศและความมั่นคงทางด้านพลังงานได้