ภาวะตลาดเงินบาท: ปิด 31.21/24 ระหว่างวันแกว่งกรอบแคบ มองกรอบเคลื่อนไหวพรุ่งนี้ 31.17-31.25

ข่าวเศรษฐกิจ Thursday April 19, 2018 17:37 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นักบริหารเงินจากธนาคารกรุงเทพ เปิดเผยว่า เงินบาทปิดตลาดเย็นนี้อยู่ที่ระดับ 31.21/24 บาท/ดอลลาร์ จากช่วง เช้าที่เปิดตลาดที่ระดับ 31.24 บาท/ดอลลาร์

ช่วงเช้าเงินบาทปรับอ่อนค่าขึ้นมาได้บ้าง แต่ในช่วงบ่ายโดนแรงขายดอลลาร์ จึงทำให้เงินบาทกลับมาแข็งค่าขึ้นในช่วง ใกล้ปิดตลาด โดยตลอดทั้งวันนี้เงินบาทยังคงเคลื่อนไหวอยู่ในกรอบแคบๆ ไม่เกิน 10 สตางค์ ขณะที่ปัจจัยด้านเศรษฐกิจของสหรัฐฯ โดยเฉพาะการตอบโต้ทางภาษีของประเทศคู่ค้ายังเป็นปัจจัยที่กดดัน เพราะจะมีผลต่อภาคธุรกิจและอาจรวมไปถึงเศรษฐกิจโดยรวม ของสหรัฐฯเองได้

"เมื่อเช้าบาทขยับขึ้นมาได้บ้าง แต่พอช่วงบ่ายโดนแรงขายดอลลาร์ ระหว่างวันบาทวิ่งในกรอบแคบๆ และ(วอลุ่ม)หนา อยู่ในช่วง 31.20-31.24 บาท/ดอลลาร์ หลังจากที่บาทอ่อนค่ามาในระยะ 2-3 วันนี้ เพราะตลาดคลายกังวลเรื่องสงครามใน ซีเรีย ซึ่งปัจจัยนี้ตลาด absorb ไปแล้ว" นักบริหารเงินระบุ

อย่างไรก็ดี สถานการณ์สงครามในซีเรียยังเป็นสิ่งที่ต้องจับตา เนื่องจากยังมีความไม่ชัดเจนในท่าทีของประธานาธิบดี สหรัฐฯ

นักบริหารเงิน คาดว่า พรุ่งนี้เงินบาทจะเคลื่อนไหวในกรอบ 31.17 - 31.25 บาท/ดอลลาร์

  • ปัจจัยสำคัญ
  • ช่วงเย็นเงินเยนอยู่ที่ระดับ 107.40 เยน/ดอลลาร์ จากช่วงเช้าที่ระดับ 107.50 เยน/ดอลลาร์
  • ส่วนเงินยูโรอยู่ที่ระดับ 1.2367 ดอลลาร์/ยูโร จากช่วงเช้าที่ระดับ 1.2368 ดอลลาร์/ยูโร
  • ดัชนี SET ปิดวันนี้ที่ระดับ 1,794.94 จุด เพิ่มขึ้น 23.38 จุด (+1.32%) มูลค่าการซื้อขาย 84,420 ล้านบาท
  • สรุปปริมาณการซื้อขายรายกลุ่ม ต่างชาติซื้อสุทธิ 1,615.81 ลบ.(SET+MAI)
  • สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) ระบุว่าเศรษฐกิจไทยมีแนวโน้มปรับตัวดีขึ้นต่อเนื่องตลอดช่วง 3-4 ปี และคาด
ว่าในปี 2561 จะขยายตัวได้ 4.2% ซึ่งเป็นการขยายตัวในระดับเต็มศักยภาพ โดยมีปัจจัยขับเคลื่อนหลักจากการส่งออก และการท่อง
เที่ยว ขณะที่การบริโภคและการลงทุนโดยยังสนับสนุนการขยายตัวของเศรษฐกิจได้ดี
  • ธนาคารกรุงศรีอยุธยา (BAY) กล่าวถึงผลการดำเนินงานในไตรมาส 1/61 ว่า เป็นที่น่าพอใจ ด้วยกำไรสุทธิที่
แข็งแกร่งจำนวน 6.2 พันล้านบาท เติบโต 9.4% จากไตรมาส 4/60 และ 10.1% จากไตรมาส 1/60 แม้ว่าได้รับผลกระทบจาก
ปัจจัยด้านฤดูกาลของการชำระคืนเงินให้สินเชื่อแต่กรุงศรียังสามารถส่งมอบสถิติกำไรสุทธิรายไตรมาสที่โดดเด่น
  • ธนาคารทหารไทย (TMB) เปิดเผยว่า ธนาคารและบริษัทย่อยแจ้งผลประกอบการไตรมาส 1/61 ยังคงเติบโตต่อ
เนื่องทั้งด้านเงินฝากและสินเชื่อ ควบคู่ไปกับการบริหารคุณภาพสินทรัพย์อย่างรอบคอบ โดยทีเอ็มบีมีกำไรจากการดำเนินงานหลักก่อน
สำรองฯ จำนวน 5,109 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 7% จากช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว และตั้งสำรองฯ 2,305 ล้านบาท เพื่อคงอัตราส่วน
สำรองฯ ต่อ NPL ในระดับแข็งแกร่งที่ 142% ขณะที่สัดส่วน NPL ยังต่ำที่ 2.40%
  • กองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF) ออกรายงาน "Global Financial Stability Report" โดยเตือน
ว่า ปัจจัยเสี่ยงที่จะส่งผลกระทบต่อระบบการเงินทั่วโลกกำลังเพิ่มขึ้น เนื่องจากราคาสินทรัพย์เสี่ยงพุ่งขึ้นอย่างร้อนแรง และกำลังเข้า
สู่ภาวะฟองสบู่ ซึ่งคล้ายกับสถานการณ์ที่เกิดขึ้นในช่วงก่อนที่จะเกิดวิกฤตการเงินโลก โดยความเปราะบางด้านการเงินซึ่งมีสาเหตุมา
จากภาวะอัตราดอกเบี้ยที่ต่ำเกินไปและความผันผวนในตลาด
  • กระทรวงพาณิชย์จีนเปิดเผยว่า ยังไม่มีการเจรจาระดับทวิภาคีเรื่องข้อพิพาทการค้าระหว่างจีนและสหรัฐแต่อย่าง
ใด
  • มูดี้ส์ อินเวสเตอร์ส เซอร์วิส คาดการณ์ว่า รัสเซียจะได้รับผลกระทบเพียงเล็กน้อยจากมาตรการคว่ำบาตรของ

สหรัฐ เนื่องจากสถานะการเงินที่แข็งแกร่งของรัสเซียทั้งภายในและต่างประเทศนั้น จะช่วยลดผลกระทบจากสถานการณ์ดังกล่าว แต่

อย่างไรก็ดี การที่รัสเซียถูกคว่ำบาตรนั้นอาจจะส่งผลกระทบในด้านลบต่ออันดับความน่าเชื่อถือของบริษัทเอกชนบางแห่งของรัสเซีย

โดยเฉพาะบริษัท United Company Rusal ซึ่งเป็นผู้ผลิตอลูมิเนียมชั้นนำของโลก และเป็นหนึ่งในบริษัทที่ถูกสหรัฐคว่ำบาตรครั้งนี้


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ