นายชัยวัฒน์ ทองคำคูณ ผู้อำนวยการสำนักงานนโยบายและแผนการขนส่งและจราจร (สนข.) กล่าวภายหลังเป็นประธานเปิดการสัมมนารับฟังความคิดเห็น ครั้งที่ 2 โครงการศึกษาสำรวจความต้องการการเดินทาง (Travel Demand Survey ) และปรับปรุงฐานข้อมูลการเคลื่อนย้ายสินค้า เพื่อการวางแผนระบบขนส่งของประเทศว่า หากแผนแม่บทระบบขนส่งมวลชนทางรางในเขตกรุงเทพมหานครและปริมณฑล ระยะที่ 1 ก่อสร้างแล้วเสร็จและเปิดให้บริการได้ครบในปี 2567 เชื่อว่าจะช่วยปรับสัดส่วนให้ประชาชนเดินทางด้วนระบบขนส่งสาธารณะมากขึ้นโดยตั้งเป้าเพิ่มเป็น 50%
ปัจจุบัน กรุงเทพมหานครมีผู้เดินทางทุกโหมดกว่า 32 ล้านเที่ยวคน/วัน เป็นการใช้รถส่วนบุคคลสูงถึง 70% ขณะที่สัดส่วนผู้ใช้รถโดยสารสาธารณะมี 30% และมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ โดยเฉพาะ รถไฟฟ้า แต่ยังมีข้อจำกัด ที่จำนวนรถไม่เพียงพอต่อความต้องการและเส้นทางยังไม่คลอบคลุม จึงทำให้การจราจรด้วยรถไฟฟ้า มีสัดส่วนเพียง 1.2% เท่านั้น
ทั้งนี้ สนข. ได้เริ่มดำเนินการศึกษาในเรื่องดังกล่าว ตั้งแต่เดือนมกราคม พ.ศ. 2560 จนถึงปัจจุบัน ได้ทำการศึกษาพัฒนาแบบจำลอง 2 แบบได้แก่ (1) แบบจำลองด้านการขนส่งและจราจรระดับกรุงเทพมหานครและปริมณฑลหรือที่เรียกว่า eBUM (Extended Bangkok Urban Area Model) ซึ่งเป็นแบบจำลองยุทธศาสตร์ (Strategic Model) ที่ สนข. พัฒนาขึ้นมาเป็นแบบจำลองพื้นฐาน (Base Model) เพื่อใช้ในการวิเคราะห์สภาพ การขนส่งและจราจร และสามารถใช้ในการทดสอบมาตรการด้านการจราจร (Traffic Management Measure)
และ (2) แบบจำลองระดับประเทศหรือที่เรียกว่า NAM (National Model) เพื่อใช้ในการวิเคราะห์ปริมาณการเดินทางและการขนส่งสินค้าระหว่างจังหวัดที่เกิดขึ้นในแต่ละรูปแบบ และศึกษาวิเคราะห์สภาพการจราจรและขนส่งในระดับเชิงกิจกรรม (Activities Based) ในพื้นที่นำร่อง ได้แก่ พื้นที่อำเภอเมือง จังหวัดนนทบุรี รวมทั้งการพัฒนาฐานข้อมูลสารสนเทศการขนส่งและจราจร เพื่อประกอบการวางแผนด้านการขนส่งและจราจร ให้เกิดประโยชน์สูงสุดต่อไป