นายฐากร ตัณฑสิทธิ์ เลขาธิการ กรรมการกิจการกระจายเสียงกิจการโทรทัศน์และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) กล่าวว่า ที่ประชุมคณะกรรมการ กสทช.ในวันพรุ่งนี้จะพิจารณาในการจัดประมูลคลื่นความถี่ 900 และ 1800 เมกะเฮิตรซ์ (MHz) ซึ่ง กสทช.ยังเชื่อว่าหากจัดประมูลคลื่นรอบใหม่ดังกล่าวจะยังคงมีผู้สนใจเข้าร่วมการประมูล แม้ว่าการแข่งขันอาจจะไม่รุนแรงเท่ากับการประมูลครั้งที่ผ่าน ๆ มา เนื่องจากราคาเริ่มต้นอยู่ในระดับสูง
ส่วนกรณีที่ บมจ.โทเทิ่ล แอ็คเซ็ส คอมมูนิเคชั่น (DTAC) และ บมจ.ทีโอที ได้เซ็นสัญญาความร่วมมือในการให้บริการบนคลื่นความถี่ 2300 MHz จะไม่ทำให้การประมูลคลื่นรอบใหม่ของ กสทช.ลดความน่าสนใจลง เพราะคุณสมบัติของคลื่นมีความแตกต่างกัน
"หากประมูลคลื่นในเวลานี้ คลื่น 1800 ราคาเริ่มต้น 37,000 ล้านบาท ถ้าเคาะเพิ่ม 1 ครั้งราคาจะอยู่ประมาณ 38,000 ล้านบาท สามารถเอาไปใช้งานได้ถึง 15 ปี ตกเป็นมูลค่าปีละ 2000 ล้านบาท เทียบกับคลื่น 2300 ที่ไม่สามารถเอาไปใช้งานทั้งทุกบริการ ใช้ได้แต่บริการข้อมูลเท่านั้น แต่ดีแทคต้องจ่ายให้ทีโอทีปีละ 4500 ล้านบาท เมื่อเทียบต้นทุนกันแล้วจึงคิดว่าจะมีคนสนใจที่จะเข้าประมูล"นายฐากร กล่าว
ด้านนายสืบศักดิ์ สืบภักดี นักวิจัยโทรคมนาคม สำนักวิจัยมหาวิทยาลัยกรุงเทพ กล่าวว่า หาก กสทช.ปรับปรุงหลักเกณฑ์การประมูลคลื่น 900 MHz ก็น่าจะทำให้ผู้ประกอบการให้ความสนใจแม้ว่าจะมีคลื่นอยู่ในมือแล้ว ส่วนผู้ที่มีคลื่นในมือน้อยที่สุดก็น่าจะเข้าประมูลเพื่อให้ได้คลื่นความถี่มา แต่ผู้รายที่มีปริมาณคลื่นมากที่สุดแม้อาจจะไม่ต้องการคลื่นเพิ่มเติมมากนัก แต่อาจจะเข้าประมูลเพื่อกันไม่ให้ต้นทุนของคู่แข่งต่ำเกินไป ขณะเดียวกันจะมีผลดีต่อภาพลักษณ์และราคาหุ้นด้วย