นายวิรไท สันติประภพ ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เปิดเผยว่า เศรษฐกิจไทยในไตรมาส 1/61 เห็นการฟื้นตัวที่ดีขึ้นทั้งการส่งออกและการท่องเที่ยว กระจายตัวหลายอุตสาหกรรม ทั้งผู้ประกอบการขนาดใหญ่ขนาดกลางและขนาดเล็ก ซึ่งได้ประโยชน์จากการฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลก และยังต้องติดตามตัวเลขการนำเข้า ซึ่งขณะนี้ขยายตัวดีขึ้น มีการนำเข้าวัตถุดิบเพื่อการผลิตขั้นกลางมากขึ้น รวมทั้งการนำเข้าสินค้าทุน เครื่องจักร ซึ่งสะท้อนว่าการส่งออกและการผลิตขยายตัวดี
อย่างไรก็ตาม การฟื้นตัวของเศรษฐกิจบางกลุ่มยังคงเปราะบาง เช่น เศรษฐกิจชุมชน ซึ่งยังต้องติดตามอย่างต่อเนื่อง แต่รัฐบาล ก็ได้ให้ความสำคัญในการฟื้นตัวของเศรษฐกิจชุมชน โดยมีการจัดสรรงบกลางปีเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจชุมชนและฐานรากในหลายโครงการ รวมทั้งมีการเร่งเบิกจ่ายงบประมาณสู่ท้องถิ่น
ขณะที่ภาวะหนี้ครัวเรือน แม้สัดส่วนหนี้ต่อผลผลิตมวลรวมในประเทศ (จีดีพี) จะลดลง แต่หนี้ครัวเรือนเกษตรกร และผู้มีรายได้น้อยยังอยู่ในระดับสูง ต้องเผชิญปัจจัยลบหลายด้าน เช่น ราคาสินค้าเกษตรตกต่ำ ภัยแล้ง ซึ่งแม้ว่าหนี้ครัวเรือนกลุ่มนี้จะไม่ใช่ความเสี่ยงต่อเศรษฐกิจมหภาค แต่มีผลกระทบต่อการฟื้นตัวของเศรษฐกิจในหลายพื้นที่
ส่วนการปรับเปลี่ยนนโยบายการเงินของประเทศอุตสาหกรรมหลักโดยเฉพาะสหรัฐ ทำให้ผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐปรับตัวสูงขึ้นนั้น ผู้ว่า ธปท.ยืนยันว่า ไม่กระทบต่อตลาดการเงินไทย เพราะปัจจุบันสภาพคล่องในประเทศและธนาคารพาณิชย์ยังอยู่ในระดับสูง จึงไม่ใช่สิ่งที่กังวลมากนัก
อย่างไรก็ตาม ที่ผ่านมาได้เตือนนักลงทุนหรือประชาชนที่กู้เงินต่างประเทศ ต้องระวังต้นทุนทางการเงินที่ปรับเพิ่มขึ้นจากภาวะดอกเบี้ยที่สูงขึ้น