คลัง ลุ้นขายหน่วยลงทุน TFF ได้ตามแผนช่วงมิ.ย.-ก.ค.61 หลังอัยการตรวจร่างสัญญารับ-โอนรายได้เรียบร้อย

ข่าวเศรษฐกิจ Wednesday May 2, 2018 12:12 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายเอกนิติ นิติทัณฑ์ประภาศ ผู้อำนวยการสำนักงานคณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจ (สคร.) เปิดเผยถึงความคืบหน้าการขายหน่วยลงทุนกองทุนรวมโครงสร้างพื้นฐานเพื่ออนาคตประเทศไทย (ไทยแลนด์ฟิวเจอร์ฟันด์) ว่า ขณะนี้อัยการได้ตรวจร่างสัญญาการโอนและรับสิทธิ์โอนรายได้ (RTA) โครงการทางพิเศษฉลองรัฐ (รามอินทรา-อาจณรงค์) และทางพิเศษบูรพาวิถี (บางนา-ชลบุรี) เพื่อโอนรายได้ในอนาคตที่ 45% ให้กับกองทุนไทยแลนด์ฟิวเจอร์ฟันด์ เป็นเวลา 30 ปี สำหรับจ่ายเป็นผลตอบแทนให้กับนักลงทุนเสร็จเป็นที่เรียบร้อยแล้ว

โดยหลังจากนี้ สคร. จะดูในรายละเอียดร่างสัญญาฯ ที่อัยการส่งมา หากมีส่วนที่ต้องปรับปรุงแก้ไขก็จะเร่งดำเนินการ ก่อนส่งร่างดังกล่าวให้คณะกรรมการการทางพิเศษแห่งประเทศไทย (กทพ.) พิจารณาอีกครั้ง หลังจากนั้นหากไม่มีข้อสังเกตใด ๆ เพิ่มเติม ทาง สคร. ก็จะดำเนินการยื่นเรื่องจดทะเบียนเพื่อขายหน่วยลงทุน (ไฟลิ่ง) กับทางสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) ต่อไป

"ตอนนี้กระบวนการต่าง ๆ ในการจัดตั้งกองทุนไทยแลนด์ฟิวเจอร์ฟันด์พร้อมหมดแล้ว แต่ยังติดปัญหาบางส่วนอยู่ โดยเฉพาะการยื่นเรื่องในนามบุคคลต่อศาลปกครองสูงสุด เพื่อให้มีการยกเลิกการขายหน่วยลงทุนของกองทุนฯ หลังจากที่ก่อนหน้านี้ศาลปกครองสูงสุดได้มีคำสั่งไม่รับคำอุทธรณ์ของสหภาพแรงงานการทางพิเศษแห่งประเทศไทย (สร.กทพ.) ที่ยื่นเรื่องให้มีการยุติการขายหน่วยลงทุน ส่วนกระบวนการหลังจากนี้จะเดินหน้าได้เมื่อไหร่ คงขึ้นอยู่กับศาลด้วยว่าจะมีการพิจารณาเรื่องนี้ออกมาอย่างไร" นายเอกนิติ กล่าว

นายชาญวิทย์ นาคบุรี รองผู้อำนวยการ สคร. เปิดเผยว่า เบื้องต้นยังยืนยันตามแผนเดิมในการขายหน่วยลงทุนในช่วงเดือน มิ.ย. – ก.ค. นี้ โดยจากการหารือร่วมกันกับ กทพ. ก่อนหน้านี้ โครงการทางพิเศษพระราม 3-ดาวคะนอง-วงแหวนรอบนอกกรุงเทพมหานครด้านตะวันตก วงเงินลงทุน 3.04 หมื่นล้านบาท ซึ่งต้องมีการประกวดราคานานาชาติ (อินเตอร์เนชั่นแนล บิดดิ้ง) ที่มีกระบวนการซับซ้อน ทำให้ยังมีเวลาเพียงพอที่จะเปิดขายหน่วยลงทุนตามแผนงานได้

ทั้งนี้ หากยังไม่สามารถเปิดขายหน่วยลงทุนได้ทันตามแผนการใช้เงินของ กทพ. ก็ได้มีการเตรียมแผนรองรับโดยจะให้สำนักงานบริหารหนี้สาธารณะ (สบน.) ดำเนินการกู้เงินระยะสั้นเพื่อรองรับการดำเนินการไปพลางก่อนได้

สำหรับเงินที่ขายหน่วยลงทุนจะให้ กทพ. ไปใช้ก่อสร้างโครงการทางพิเศษพระราม 3-ดาวคะนอง-วงแหวนรอบนอกกรุงเทพมหานครด้านตะวันตก วงเงินลงทุน 3.04 หมื่นล้านบาท และโครงการทางด่วนขั้นที่ 3 สายเหนือตอน N2 และ E–W corridor ด้านตะวันออก วงเงินลงทุน 1.43 หมื่นล้านบาท ซึ่งคาดว่าจะเริ่มเซ็นสัญญาก่อสร้างได้ภายในกลางปีนี้เช่นกัน


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ