นายพีระพล ถาวรสุภเจริญ รองปลัดกระทรวงคมนาคม กล่าวภายหลังเป็นประธานประชุมคณะกรรมการบริหารจัดการระบบตั๋วร่วม ว่า จะเร่งปรับปรุงระบบเพื่อรองรับการใช้งานกับบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ โดยภายในเดือนก.ค. 2561 จะสามารถนำบัตรสวัสดิการแห่งรัฐก่อน ใช้งานกับรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงินและสายสีม่วง หลังจากนั้นในเดือน ต.ค.61 จะนำไปใช้กับรถไฟฟ้าแอร์พอร์ตเรลลิงก์ และรถโดยสาร ขสมก.จำนวน 2,600 คันได้
พร้อมกันนี้ได้มอบหมายให้ การรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) เร่งพิจารณาเรื่องการใช้บัตรแมงมุม 2 แสนใบ ซึ่ง สนข.จะส่งมอบให้ รฟม.นำออกมาใช้งานต่อไป ส่วนรถไฟฟ้าบีทีเอสนั้น รฟม.จะเจรจากับ บมจ.ระบบขนส่งมวลชนกรุงเทพ (BTSC) ว่าจะพัฒนาเพื่อรองรับการใช้งานในระยะแรกก่อนหรือไม่ หรือจะรอปรับปรุงเป็นมาตรฐาน EMV และให้บริการพร้อมกันในเดือน ธ.ค.62
โดยรฟม.จะประชุมร่วมกับผู้ประกอบการระบบขนส่งทุกรายที่เกี่ยวข้องในวันที่ 15-17 พ.ค.นี้ เกี่ยวกับรายละเอียดของเทคนิคระบบ EMV และข้อกำหนดทางธุรกิจในประเด็นต่างๆ ให้เข้าใจร่วมกันและลงมือปรับปรุงตามขอบเขตที่กำหนด
อย่างไรก็ตาม ตั๋วร่วมในระบบ EMV ที่ รฟม.จะใช้นั้นเป็นระบบเปิดที่มีต้นทุนในการปรับปรุงระบบต่ำกว่าตั๋วร่วมระบบปิดของเดิม และยังมีค่าบริหารจัดการประมาณ 50 ล้านบาทต่อปี ต่ำกว่าเดิมที่มีค่าบริหารจัดการถึง 150 ล้านบาทต่อปี โดย รฟม.ประเมินค่าลงทุนปรับปรุงของสายสีน้ำเงิน สีเขียว และสีม่วง อยู่ที่ 218 ล้านบาท ส่วนระบบหลังบ้านลงทุนประมาณ 240 ล้านบาท ทั้งนี้ รฟม.จะต้องเร่งพิจารณาในการจัดตั้งองค์กรบริหารจัดการระบบตั๋วร่วม (Common Ticketing Company: CTC) อีกด้วย