นายพรชัย ฐีระเวช รองโฆษกกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า นายอภิศักดิ์ ตันติวรวงศ์ รมว.คลัง พร้อมด้วยนายวิสุทธิ์ ศรีสุพรรณ รมช.คลัง ตรวจเยี่ยมโครงการแก้ไขปัญหาหนี้นอกระบบและมาตรการพัฒนาคุณภาพชีวิตผู้มีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ ในจังหวัดบุรีรัมย์ พร้อมมอบนโยบาย เรื่อง "แนวทางการแก้ไขปัญหาหนี้นอกระบบและมาตรการพัฒนาคุณภาพชีวิตผู้มีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ" โดยกล่าวว่า กระทรวงการคลังมุ่งมั่นจะแก้ไขปัญหาหนี้นอกระบบแบบครบวงจรและยกระดับคุณภาพชีวิตให้ผู้มีรายได้น้อยสามารถดำรงชีพในระยะยาว เพื่อให้สามารถหลุดพ้นจากความยากจนและมีความสุขได้อย่างยั่งยืน ซึ่งที่ผ่านมา กระทรวงการคลังได้เปิดโอกาสให้เจ้าหนี้นอกระบบเข้ามาประกอบธุรกิจสินเชื่อพิโกไฟแนนซ์อย่างถูกต้องโดยได้รับผลตอบแทนที่เหมาะสมในอัตรา 36% ต่อปี (แบบลดต้นลดดอก) ควบคู่กับการจัดให้มีสินเชื่อรายย่อยเพื่อใช้จ่ายฉุกเฉินเป็นแหล่งเงินทุนทดแทนการกู้ยืมเงินนอกระบบ
นอกจากนี้ ผู้มีรายได้น้อยยังได้รับประโยชน์จากการใช้วงเงินในบัตรสวัสดิการแห่งรัฐเพื่อบรรเทาภาระค่าใช้จ่ายในครัวเรือนและค่าเดินทาง ตลอดจนได้รับโอกาส 4 มิติจากการเข้าร่วมมาตรการพัฒนาคุณภาพชีวิตผู้มีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ ได้แก่ การมีงานทำ การฝึกอาชีพและการศึกษา การเข้าถึงแหล่งเงินทุนในระบบ และการเข้าถึงสิ่งจำเป็นพื้นฐาน
ทั้งนี้ ได้เน้นย้ำว่า เมื่อผู้มีรายได้น้อยได้รับโอกาสการช่วยเหลือต่าง ๆ ดังกล่าวจากภาครัฐแล้ว ขอให้เสริมสร้างวินัยทางการเงินโดยการทำบัญชีครัวเรือน เก็บสะสมเงินออม และน้อมนำหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงไปใช้ในการดำเนินชีวิตต่อไปด้วย
อนึ่ง ภายในงานยังมีบูธและกิจกรรมต่าง ๆ เช่น การให้คำปรึกษาทางการเงิน การให้คำปรึกษาทางกฎหมายสำหรับลูกหนี้นอกระบบ การสาธิตโมเดลอาชีพ 8 อาชีพ การรณรงค์ส่งเสริมการออม การประชาสัมพันธ์ประโยชน์ที่ผู้มีรายได้น้อยจะได้รับจากโครงการบริจาคเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุของรัฐบาล เป็นต้น เพื่อเสริมให้ผู้เข้าร่วมงานได้รับความรู้และประโยชน์อย่างครบวงจรมากยิ่งขึ้น รวมถึงมีการมอบสินเชื่อรายย่อยเพื่อใช้จ่ายฉุกเฉินแก่ผู้มีรายได้น้อยจาก ธ.ก.ส. และธนาคารออมสิน และการมอบใบอนุญาตประกอบธุรกิจสินเชื่อพิโกไฟแนนซ์ให้กับผู้ประกอบการในจังหวัดบุรีรัมย์และจังหวัดใกล้เคียงจำนวน 6 ราย อนึ่ง ปัจจุบันในจังหวัดบุรีรัมย์ มีผู้ประกอบธุรกิจสินเชื่อพิโกไฟแนนซ์ที่เปิดดำเนินการแล้วทั้งสิ้น 6 ราย โดยได้ปล่อยสินเชื่อให้ประชาชนเพื่อทดแทนการกู้ยืมเงินนอกระบบแล้ว 676 ราย คิดเป็นวงเงิน 21.62 ล้านบาท หรือเฉลี่ยประมาณ 32,000 บาทต่อราย
ทั้งนี้ จังหวัดบุรีรัมย์มีผู้มีรายได้น้อยที่มีหนี้นอกระบบจำนวน 56,024 คน มีมูลหนี้นอกระบบรวมกันเป็นเงิน 2,909.63 ล้านบาท หรือเฉลี่ย 51,935.42 บาทต่อคน ซึ่งเจ้าหน้าที่ ธ.ก.ส. และธนาคารออมสิน อยู่ระหว่างติดตามตัวเพื่อช่วยเหลือลูกหนี้นอกระบบแต่ละรายดังกล่าวต่อไป