ภาวะตลาดเงินบาท: ปิด 31.84 อ่อนค่าต่อเนื่องจากช่วงเช้าตามทิศทางตลาดโลก มองกรอบเคลื่อนไหว 31.75-31.90

ข่าวเศรษฐกิจ Monday May 7, 2018 17:33 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นักบริหารเงินจากธนาคารกรุงศรีอยุธยา เปิดเผยว่า เงินบาทปิดตลาดวันนี้ที่ระดับ 31.84 บาท/ดอลลาร์ จากตอนเช้า ที่เปิดตลาดที่ระดับ 31.71 บาท/ดอลลาร์ ระหว่างวันเคลื่อนไหวในกรอบระหว่าง 31.69-31.87 บาท/ดอลลาร์

"วันนี้เงินบาทปิดตลาดที่ระดับอ่อนค่าสุดในรอบ 3 เดือน นับตั้งแต่วันที่ 9 ก.พ.61 ขณะที่ยูโรลงไปแรงกว่าที่คิด ส่วน ดอลลาร์มีแรงซื้อเมื่อเทียบกับสกุลอื่น แต่ถือว่าเงินบาทยังเคลื่อนไหวตามทิศทางตลาดโลกซึ่งยังไม่ได้มีปัจจัยสำคัญมากระทบ โดยตลาด รอตัวเลขเงินเฟ้อของสหรัฐฯในคืนวันพฤหัสบดีที่ 10 พ.ค.นี้" นักบริหารเงินระบุ

นักบริหารเงิน คาดกรอบการเคลื่อนไหวของค่าเงินบาทวันพรุ่งนี้ระหว่าง 31.75-31.90 บาท/ดอลลาร์

  • ปัจจัยสำคัญ
  • เงินเยนอยู่ที่ 109.25 เยน/ดอลลาร์ จากตอนเช้าที่อยู่ที่ระดับ 108.88 เยน/ดอลลาร์
  • เงินยูโรอยู่ที่ 1.1927 ดอลลาร์/ยูโร จากตอนเช้าที่อยู่ที่ระดับ 1.1967 ดอลลาร์/ยูโร
  • ดัชนี SET ปิดวันนี้ที่ระดับ 1,779.80 จุด ลดลง 0.07 จุด, 0.00% มูลค่าการซื้อขาย 44,922.00 ล้านบาท
  • สรุปปริมาณการซื้อขายรายกลุ่ม ต่างชาติขายสุทธิ 1,335.61 ลบ.(SET+MAI)
  • ธนาคารกรุงศรีอยุธยา (BAY) มองทิศทางค่าเงินบาทในสัปดาห์นี้มีแนวโน้มเคลื่อนไหวในกรอบ 31.50-31.90
บาท/ดอลลาร์ ตลาดจะติดตามตัวเลขเงินเฟ้อทั้งฝั่งผู้ผลิตและผู้บริโภคของสหรัฐฯ หลังข้อมูลจ้างงานเดือนเมษายนบ่งชี้ว่าอัตราการ
ว่างงานลดลงสู่ระดับต่ำสุดในรอบกว่า 17 ปีที่ 3.9% แต่การเติบโตของค่าจ้างกลับฟื้นตัวอย่างช้าๆ ซึ่งยังคงสร้างความท้าทายสำหรับ
เฟด เนื่องจากภาวะตลาดแรงงานที่ตึงตัวไม่ได้ส่งผ่านไปยังค่าจ้างและเงินเฟ้อตามที่ควรจะเป็น

นอกจากนี้นักลงทุนจะให้ความสนใจการประชุมธนาคารกลางอังกฤษ (BoE) ในวันที่ 10 พ.ค.61 ซึ่งคาดว่าจะเลื่อน การปรับขึ้นดอกเบี้ยออกไปเป็นช่วงครึ่งหลังของปี หลังเศรษฐกิจอังกฤษเติบโตเพียง 0.1% ในไตรมาสแรก ซึ่งถือเป็นอัตราการเติบ โตที่ต่ำที่สุดในรอบ 6 ปี ส่งผลให้ค่าเงินปอนด์เผชิญแรงกดดันอย่างต่อเนื่อง

  • คณะกรรมการร่วมภาคเอกชน 3 สถาบัน (กกร.) ประเมินว่า ในไตรมาสที่ 1 ปี 2561 เศรษฐกิจไทยน่าจะขยาย
ตัวราว 4.0% เท่ากับการขยายตัวในช่วงไตรมาส 4 ปี 2560 ทั้งปียังคงคาดการณ์ไว้ที่ 4.0-4.5% และคาดว่าการส่งออกน่าจะ
ขยายตัว 5.0-8.0% ส่วนอัตราเงินเฟ้อทั่วไป มองว่า น่าจะอยู่ที่ 0.7-1.2%

ในระยะข้างหน้า ยังคงต้องติดตามบทสรุปของประเด็นข้อพิพาททางการค้าระหว่างสหรัฐฯ กับประเทศคู่ค้า ซึ่งในเบื้อง ต้นมองว่าอาจจะมีผลกระทบที่จำกัดต่อการส่งออกของไทยในปี 2561 รวมทั้งประเด็นข้อตกลงโครงการนิวเคลียร์อิหร่าน และจังหวะ การปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐ ที่อาจจะมีผลต่อทิศทางอัตราแลกเปลี่ยนให้ยังคงปรับตัวผันผวน

  • ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ชี้แจงผลขาดทุนทางบัญชีจากเงินบาทแข็งค่า ยืนยันไม่ได้เก็งกำไรค่าเงินบาท
และการขาดทุนจากการตีราคาทางบัญชี ไม่ได้แปลว่าเงินสำรองฯ ที่ ธปท. ถืออยู่จะด้อยค่าลงเรื่อยๆ จนสร้างปัญหาให้แก่ความมั่นคง
ทางเศรษฐกิจของประเทศ
  • ผู้ว่าการธนาคารกลางจีน เปิดเผยว่า การที่จีนมียอดเกินดุลการค้ากับสหรัฐเป็นจำนวนมากนั้น เกิดจากปัญหาเชิง
โครงสร้างและเป็นปัญหาที่ยืดเยื้อมานาน ซึ่งต้องอาศัยการพิจารณาด้วยเหตุผล
  • ธนาคารกลางญี่ปุ่น (BOJ) เปิดเผยรายงานการประชุมประจำเดือนมี.ค.ในวันนี้ โดยระบุว่า คณะกรรมการกำหนด
นโยบายการเงินบางคนของ BOJ ได้เตือนว่า BOJ ไม่ควรอภิปรายเกี่ยวกับการถอนมาตรการผ่อนคลายการเงินเชิงรุกก่อนเวลาอัน
สมควร พร้อมกับแสดงความกังวลเกี่ยวกับการชะลอตัวของราคาผู้บริโภค

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ