น.ส.ดวงใจ อัศวจินตจิตร์ เลขาธิการคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (บีโอไอ) เปิดเผยว่า ไตรมาสแรกของปี 61 มีโครงการยื่นขอรับการส่งเสริมการลงทุนจำนวน 366 โครงการ เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อน 27% ขณะที่มูลค่าการลงทุนอยู่ที่ราว 205,140 ล้านบาท เพิ่มขึ้นกว่า 200% จากช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีวงเงินลงทุน 59,110 ล้านบาท โดยปีนี้บีโอไอตั้งเป้าวงเงินลงทุนไว้ที่ 7.2 แสนล้านบาท เพิ่มขึ้นจาก 6.4 แสนล้านบาทในปี 60
โดยยอดคำขอรับการส่งเสริมการลงทุนดังกล่าว คิดเป็นมูลค่าการลงทุนในพื้นที่ระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก (EEC) มากถึง 81% คือ 66 โครงการ วงเงินลงทุน 1.6 แสนล้านบาท เพิ่มขึ้น 12% จากช่วงเดียวกันปีก่อนที่มี 59 โครงการ วงเงินลงทุน 1.2 หมื่นล้านบาท ซึ่งในส่วนของพื้นที่ EEC ตั้งเป้าทั้งปีไว้ที่ 3 แสนล้านบาท ซึ่งบีโอไอพยายามดึงการลงทุนเข้าไปในพื้นที่อีอีซีให้มากที่สุด
เลขาธิการบีโอไอ กล่าวว่า เมื่อดูจากอัตราการเติบโตทางเศรษฐกิจ (GDP) และการส่งออกแล้ว เชื่อว่าจะมีการใช้กำลังการผลิตเพิ่มขึ้นซึ่งนำไปสู่การลงทุนเพิ่มเพื่อขยายกำลังการผลิต โดยบีโอไอพยายามจัดเตรียมความพร้อมเพื่อรองรับการลงทุนที่มีเพิ่มมากขึ้น
ส่วนการลงทุนในพื้นที่เขตพัฒนาเศรษฐกิจพิเศษซึ่งตั้งอยู่ตามชายแดนและจังหวัดที่มีความยากจนรวม 20 จังหวัดนั้น ช่วงไตรมาสแรกของปีนี้มีจำนวน 9 โครงการ วงเงินลงทุน 1,070 ล้านบาท จากปี 60 ที่มีจำนวน 6 โครงการ วงเงินลงมุน 3,620 ล้านบาท
"ส่วนใหญ่เป็นการลงทุนในอุตสาหกรรมเบา โครงการเล็กๆ ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างว่าจ้างเอกชนเข้ามาดำเนินการเรื่องโครงสร้างพื้นฐาน ซึ่งจะช่วยให้มีแนวโน้มการลงทุนเพิ่มขึ้น" น.ส.ดวงใจ กล่าว