ธนารักษ์เซ็นสัญญาให้ "ภูเก็ต ดีพ ซีพอร์ต" พัฒนาท่าเรือร้างในภูเก็ตรองรับท่องเที่ยวเรือสำราญแห่งแรกในภาคใต้

ข่าวเศรษฐกิจ Wednesday May 9, 2018 15:48 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายพชร อนันตศิลป์ อธิบดีกรมธนารักษ์ เปิดเผยว่า กรมธนารักษ์ได้ลงนามในสัญญากับบริษัทภูเก็ต ดีพ ซีพอร์ต จำกัด เป็นผู้รับสิทธิลงทุนและบริหารจัดการท่าเรือภูเก็ตเป็นระยะเวลา 30 ปี เพื่อพัฒนาจากท่าเรือร้างเป็นท่าเรือสำหรับท่องเที่ยว รองรับเรือสำราญขนาดใหญ่เป็นแห่งแรกของภาคใต้ และแห่งที่ 2 ของประเทศไทยต่อจากท่าเรือแหลมฉบัง ซึ่งเชื่อว่าจะช่วยกระตุ้นอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวในพื้นที่ และผลักดันให้ไทยเป็นศูนย์กลางการท่องเที่ยวทางน้ำตามนโยบายของรัฐบาลได้

"บริษัทภูเก็ต ดีพ ซีพอร์ต ซึ่งเสนอค่าธรรมเนียมการจัดหาผลประโยชน์มาให้กรมฯ สูงสุดที่ 345 ล้านบาท มากกว่าเงื่อนไขที่กรมกำหนด 139 ล้านบาท และยังมีแผนลงทุนพัฒนาอีกกว่า 132 ล้านบาท เพื่อขยายหน้าท่าเรือ สร้างอาคารผู้โดยสาร การขุดเพิ่มความลึกร่องน้ำ และปรับปรุงลานจอดรถ ซึ่งจะรองรับนักท่องเที่ยวกระเป๋าหนักจากต่างชาติได้ เพราะปกติคนที่โดยสารมาทางเรือสำราญขนาดใหญ่จะมีกำลังการใช้จ่ายสูงกว่าทางเครื่องบินมาก" นายพชร กล่าว

ส่วนแผนการพัฒนาท่าเรือที่เหลือของกรมธนารักษ์ ได้แก่ ท่าเรือสงขลา อยู่ระหว่างให้สำนักงานอัยการสูงสุดตรวจร่างสัญญาเนื่องจากเป็นโครงการลงทุนขนาดใหญ่เกินกว่า 1 พันล้านบาท ซึ่งตามระเบียบจะต้องเข้ากระบวนการให้เอกชนร่วมลงทุนในกิจการของรัฐ (PPP) ซึ่งคาดจะเสร็จและเริ่มประมูลได้ภายใน 2-3 เดือนนี้

นายวัลลภ พงษ์เลื่องธรรม ผู้จัดการใหญ่ บริษัท ภูเก็ต ดีพ ซี พอร์ต จำกัด เปิดเผยว่า การลงทุนพัฒนาท่าเรือภูเก็ตระยะแรกจะใช้เงินกว่า 132 ล้านบาท เพื่อทำการขยายหน้าท่าให้มีความกว้างขึ้นอีก 60 เมตร จากปัจจุบัน 360 เมตร เป็น 420 เมตร ซึ่งจะช่วยให้รองรับเรือสำราญขนาดใหญ่ ซึ่งบรรทุกนักท่องเที่ยวได้เพิ่มขึ้นจากลำละ 2,500 คน เพิ่มเป็น 8,000 คนต่อเที่ยว ซึ่งคาดว่าจะช่วยกระตุ้นให้เกิดการท่องเที่ยวทางเรือสำราญใน จ.ภูเก็ต ได้ไม่ต่ำกว่า 10% ต่อปี จากปัจจุบันที่มีเดินทางเข้ามา 2-3 แสนคนต่อปี


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ