นายอภิศักดิ์ ตันติวรวงศ์ รมว.การคลัง เปิดเผยถึงกรณีที่คณะกรรมการร่วมภาคเอกชน 3 สถาบัน (กกร.) ได้ทำหนังสือถึงคณะกรรมการกำกับดูแลการประกอบวิชาชีพบัญชี (กกบ.) ให้เลื่อนการบังคับใช้มาตรฐานการบัญชี IFRS9 ในวันที่ 1 ก.ค.62 ออกไปเป็นวันที่ 1 ม.ค.65 เนื่องจากต้องการให้ทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องได้มีเวลาศึกษาข้อเสียที่ส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจไทยให้ชัดเจนก่อนว่า กกบ. เป็นตัวหลักในการพิจารณาเรื่องดังกล่าว ซึ่งตนเองเห็นด้วยที่จะมีการตั้งคณะทำงานขึ้นมาเพื่อพิจารณาและรวบรวมข้อมูลความพร้อม รวมถึงผลกระทบในภาพรวมกับประเทศก่อน
ทั้งนี้ ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) มีหน้าที่ต้องทำความเข้าใจกับสถาบันการเงินเพื่อให้เตรียมตัวพร้อมสำหรับการบังคับใช้หลักเกณฑ์ดังกล่าว ขณะที่คณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) และตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) มีหน้าที่เตรียมความพร้อมของบริษัทจดทะเบียนที่เกี่ยวข้องทั้งหมด
นายอภิศักดิ์ กล่าวว่า IFRS9 เป็นเรื่องที่ใช้กันในระดับสากล ซึ่งในส่วนของประเทศไทยเป็นประเทศขนาดเล็ก ดังนั้น อาจจะมีการพิจารณาปรับหลักเกณฑ์ต่าง ๆ มาใช้ให้เหมาะสม แต่ก็ต้องสอดคล้องกับหลักเกณฑ์สากล โดยไม่ต้องทำให้ครงบถ้วนทุกข้อก็ได้ เพียงมองเป็นภาพกว้าง ๆ ก็เพียงพอ
"เราไม่จำเป็นต้องทำแบบที่เขากำหนดทั้งหมด แต่เราสามารถเอาภาพรวมของหลักเกณฑ์ที่ต่างประเทศกำหนดมาพิจารณาปรับให้สอดคล้องได้ เพราะเราอาจจะทำแบบที่สากลกำหนดทั้งหมดไม่ได้ ดังนั้น สิ่งที่อยากเห็นคือการปรับให้สอดคล้อง เอาสิ่งที่ควรพัฒนามาดำเนินการ ดังนั้นเป็นเรื่องที่ถูกต้องที่ควรจะมีการศึกษาข้อดีข้อเสียของเรื่องนี้ใหม่" นายอภิศักดิ์ กล่าว
สิ่งที่อยากให้พิจารณาคือ ไทยเป็นประเทศที่มีผู้ประกอบการเอสเอ็มอีค่อนข้างมากถึง 30% ขณะที่ต่างประเทศมีประมาณ 10% หรือประเทศที่พัฒนาแล้วอาจจะไม่ถึง 10% ซึ่งผลกระทบอันดับแรกที่ตามมา คือ สถาบันการเงินต้องตั้งสำรองเพิ่ม และเป็นไปได้ที่คิดอัตราดอกเบี้ยกับเอสเอ็มอีเพิ่มขึ้น หรือบางแห่งอาจจะไม่ปล่อยกู้ให้เอสเอ็มอี ซึ่งเป็นสิ่งที่น่ากังวลและอาจเกิดผลกระทบในวงกว้าง จึงจำเป็นต้องรอดูผลการศึกษาก่อน
นายอภิศักดิ์ กล่าวอีกว่า มาตรฐาน IFRS9 จะไม่กระทบกับการปล่อยสินเชื่อของสถาบันการเงินเฉพาะกิจ เพราะเป็นการปล่อยกู้ให้กับผู้ด้อยโอกาสมีรายได้น้อย ซึ่งมีความเสี่ยงสูงและธนาคารพาณิชย์ไม่ปล่อยกู้ หากให้สถาบันการเงินเฉพาะกิจต้องตั้งสำรองจนขาดทุนก็เป็นเรื่องที่ไม่ถูกต้อง จึงต้องปรับลดหลักเกณฑ์ให้เหมาะสม โดย ธปท.ทราบปัญหาดังกล่าวเป็นอย่างดีอยู่แล้ว
นายสมบูรณ์ จิตเป็นธม ผู้ช่วยผู้ว่าการ สายนโยบายสถาบันการเงิน ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) กล่าวว่า สภาวิชาชีพบัญชีมีแผนจะนำการบัญชีหรือมาตรฐานรายงานการเงิน-IFRS 9 มาใช้ในประเทศไทยในปี 62 หลังจากวันบังคับใช้ของต่างประเทศ 1 ปี ธปท. ได้หารือร่วมกับสถาบันการเงินอย่างต่อเนื่องตั้งแต่ปี 59 เพื่อเตรียมความพร้อมทั้งในแง่ระบบ และเตรียมการตั้งสำรองอันเป็นผลสืบเนื่องจากมาตรฐานการบัญชีใหม่ ซึ่งโดยรวมแล้วสถาบันการเงินเองก็ดำเนินการเตรียมตัวและพร้อมแล้ว
อย่างไรก็ดี มีข้อกังวลเกี่ยวกับผลกระทบต่อภาคธุรกิจโดยเฉพาะธุรกิจ SME ด้วยเหตุนี้ ได้ทราบมาว่าสภาวิชาชีพบัญชีโดย กกบ. จะนำผลกระทบต่อภาคธุรกิจ โดยเฉพาะ SME ในแง่ของต้นทุนการขอสินเชื่อที่อาจสูงขึ้นและการเข้าถึงสินเชื่อที่อาจยากขึ้น มาประกอบการพิจารณาเพื่อความรอบคอบ รวมถึงอยู่ระหว่างพิจารณาแนวทางที่จะช่วยลดผลกระทบในการปฏิบัติตามมาตรฐานการบัญชีดังกล่าว