นายสุพันธุ์ มงคลสุธี ประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) เปิดเผยถึงผลการสำรวจดัชนีความเชื่อมั่นภาคอุตสาหกรรมในเดือน เม.ย.61 อยู่ที่ 89.1 ปรับตัวลดลงจากระดับ 90.7 ในเดือน มี.ค.61 โดยค่าดัชนีฯที่ลดลง เกิดจากองค์ประกอบยอดคำสั่งซื้อโดยรวม ยอดขายโดยรวม ปริมาณการผลิต ต้นทุนประกอบการ และผลประกอบการ
จากการสำรวจ พบว่าค่าดัชนีความเชื่อมั่นภาคอุตสาหกรรมในเดือน เม.ย.ปรับตัวลดลงจากเดือนก่อนหน้า เนื่องจากมีวันทำงานน้อยกว่าปกติจากวันหยุดต่อเนื่องในช่วงเทศกาลสงกรานต์ รวมทั้งผู้ประกอบการได้เร่งผลิตไปในช่วงเดือนก่อนหน้าแล้วส่งผลให้การใช้กำลังผลิตในเดือน เม.ย.ลดลง
อีกทั้งผู้ประกอบการยังมีความกังวลต่อต้นทุนการผลิต จากราคาวัตถุดิบ ราคาน้ำมัน และค่าจ้างแรงงานที่ปรับตัวสูงขึ้น รวมทั้งการแข่งขันด้านราคา ขณะเดียวกันการแข็งค่าของเงินบาทส่งผลกระทบทำให้ผู้ส่งออกสูญเสียรายได้เมื่อแปลงกลับมาเป็นเงินบาท
ขณะที่ดัชนีความเชื่อมั่นฯ คาดการณ์ 3 เดือนข้างหน้า อยู่ที่ระดับ 102.2 ปรับตัวเพิ่มขึ้นจาก 100.9 ในเดือน มี.ค.61 เนื่องจากผู้ประกอบการมีความเชื่อมั่นว่าเศรษฐกิจไทยจะขยายตัวได้อย่างต่อเนื่อง โดยได้รับแรงหนุนจากภาคการส่งออก
ทั้งนี้ ผู้ประกอบการ ได้เสนอแนะภาครัฐให้แก้ไขปัญหาการเข้าถึงแหล่งเงินทุน เช่น ผ่อนปรนเงื่อนไขการขอสินเชื่อและการใช้หลักทรัพย์ค้ำประกัน, เร่งเบิกจ่ายงบประมาณภาครัฐที่ยังล่าช้า, ลดภาษีนำเข้าสินค้าทุนและเครื่องจักร สำหรับผู้ผลิตสินค้าเพื่อส่งออก, เร่งเปิดความสัมพันธ์ด้านการค้าและการลงทุนกับกลุ่มประเทศตลาดเกิดใหม่ (Emerging Market) ที่มีศักยภาพ และกำหนดมาตรการในการถ่ายทอดเทคโนโลยี (Technology Transfer) เพื่อให้ผู้ประกอบการไทยมีขีดความสามารถในการแข่งขันเพิ่มขึ้น