น.ส.จารุลักษณ์ เรืองสุวรรณ เลขาธิการคณะกรรมการกองทุนการออมแห่งชาติ (กอช.) เปิดเผยว่า กอช.ตั้งเป้าเพิ่มจำนวนสมาชิกในปี 61 เป็น 1 ล้านราย จากสิ้นปีก่อนอยู่ที่ 540,000 ราย โดยในช่วง 4 เดือนที่ผ่านมา (ม.ค.-เม.ย.61) มีจำนวนสมาชิกเพิ่มเข้ามาแล้วกว่า 10,000 ราย โดยที่ทีมงานของกอช.ได้ลงพื้นที่สร้างความเข้าใจทางด้านการออม และทำให้ประชาชนมีวินัยการออมมากขึ้น เพื่อรองรับต่อการดำรงชีวิตในวัยเกษียณ
นอกจากนี้ กอช. ยังตั้งเป้าหมายให้สมาชิกมีการออมเฉลี่ยเพิ่มขึ้นเป็น 1,500 บาท/ราย/เดือน ภายในปี 61 จากปัจจุบันที่สมาชิกออมเงินเฉลี่ยอยู่ที่ 1,200 บาท/เดือน ซึ่งเป็นการกระตุ้นในสมาชิกมีการออมเพิ่มขึ้น โดยที่สมาชิก กอช. สามารถออมขั้นต่ำได้ตั้งแต่ 50 บาทขึ้นไป ซึ่งรัฐบาลจะมีเงินสมทบให้ตามช่วงอายุ โดยช่วงอายุ 15-30 ปี รับเงินสมทบสูงสุด 600 บาท/ปี, ช่วงอายุ 30-50 ปี รับเงินสมทบสูงสุด 960 บาท และช่วงอายุ 50-60 ปี รับเงินสมทบสูงสุด 1,200 บาท/ปี
โดยปัจจุบัน กอช. มีเงินออมของสมาชิกรวมทั้งหมด 4,200 ล้านบาท จากการดำเนินงานมาเกือบ 3 ปี โดย กอช. จะนำเงินออมของสมาชิกไปลงทุนตามที่กฏหมายกำหนด เพื่อให้มีผลตอบแทนกลับมา โดยได้แบ่งสัดส่วนการลงทุนออกเป็น 80% ลงทุนในพันธบัตรรัฐบาล หุ้นกู้เอกชน เรตติ้ง A- และเงินฝาก ส่วนการลงทุนในสัดส่วนอีก 20% เป็นการลงทุนในกองทุนอสังหาริมทรัพย์ และกองทุนรวมที่ลงทุนในตลาดหุ้นไทย ซึ่งการลงทุนของกอช.ส่วนใหญ่เป็นการลงทุนที่มีความเสี่ยงต่ำ ทำให้ผลตอบแทนยังไม่สูงมาก โดยที่ปีก่อนมีผลตอบแทนจากการลงทุนอยู่ที่ 4% และในปีนี้คาดว่าจะมีผลตอบแทนอยู่ที่ 3-4%
อย่างไรก็ตาม คณะกรรมการ กอช.อยู่ระหว่างการพิจารณาแก้ไขข้อกฏหมายด้านการลงทุนของกอช. ให้สามารถลงทุนในสินทรัพย์ที่มีความเสี่ยงสูงขึ้น เพื่อให้ได้รับผลตอบแทนที่เพิ่มมากขึ้น พร้อมกับพิจารณาแนวทางการออมที่สร้างแรงจูงใจให้สมาชิกมีการออมเพิ่มขึ้น และอาจจะมีการจ่ายเงินปันผลให้กับสมาชิกบ้าง เพื่อให้สมาชิกสามารถมีเงินไปใช้ในกรณีที่จำเป็น เพื่อป้องกันไม่ให้สมาชิกมาเบิกเงินล่วงหน้าอย่างที่เกิดขึ้นกับสมาชิกบางรายในปัจจุบัน ซึ่งต้องมีการแก้ไขกฏหมาย
"กอช.พยายามทำให้คนไทยมีการออมมากขึ้น ซึ่งเราได้มีการลงพื้นที่ทำความรู้จักและสร้างความเข้าใจให้ประชาชนรู้จักการออมมากขึ้น และรู้จัก กอช. ซึ่งทุกคนสามารถเข้ามาเป็นสมาชิกได้ เพราะ กอช. เป็นกองทุนแบบสมัครใจ แต่เราก็ไม่ได้จะผลักดันมากจนเกินไป เป็นการทำแบบค่อยเป็นค่อยไป เพราะคนไทยเพิ่งเริ่มหันมาออมอย่างจริงจังไม่กี่ปี ซึ่งที่ผ่านมา การออมถือว่าเป็นเรื่องไกลตัวของคนไทย และคนไทยยังมีนิสัยการนำเงินในอนาคตมาใช้ โดยเฉพาะการใช้จ่ายผ่านบัตรเครดิต และในปีนี้ก็อยากให้การออมต่อหัวของสมาชิกเพิ่มมากขึ้น เพื่อฝึกนิสัยการออมอย่างจริงจัง พร้อมกับพิจารณาแนวทางต่างๆ เพื่อดึงดูดให้มีจำนวนสมาชิกเพิ่มขึ้น" เลขาธิการ กอช.ระบุ