พล.ท.คงชีพ ตันตระวาณิชย์ โฆษกกระทรวงกลาโหม เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะกรรมการนโยบายปาล์มน้ำมันแห่งชาติ (กนป.) ที่มี พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม เป็นประธาน ได้รับทราบสถานการณ์ราคาน้ำมันปาล์มในตลาดโลกปีนี้มีแนวโน้มลดลง เนื่องจากมีผลผลิตและสต็อกรวมของโลกเพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับปี 2560 รวมทั้งรับทราบการแต่งตั้งคณะกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ ในการทำหน้าที่ขับเคลื่อนและติดตามงานสำคัญตามนโยบายของคณะกรรมการฯ
ทั้งนี้ พล.อ.ประวิตร ได้กำชับให้กระทรวงพาณิชย์กำหนดมาตรการเฉพาะเร่งด่วนเข้าไปสนับสนุนผลักดันการส่งออกสต็อกน้ำมันปาล์มส่วนเกิน และประสานกับกรมศุลกากรเร่งแก้ปัญหาการกระทำที่ผิดกฎหมายในการถ่ายลำ/ผ่านแดนน้ำมันปาล์ม เพื่อรักษาและปรับสมดุลราคาภายในประเทศ และให้กระทรวงอุตสาหกรรมเร่งกำหนดมาตรฐานโรงงานสกัดน้ำมันปาล์มเพื่อปรับคุณภาพการสกัดให้สูงขึ้น พร้อมทั้งประสานกับกระทรวงพลังงานส่งเสริมการใช้นำมันดีเซลหมุนเร็ว บี 20 เพื่อประโยชน์ร่วมกัน
พร้อมกันนี้ได้พิจารณามาตรการแก้ปัญหาปาล์มน้ำมันและน้ำมันปาล์มในประเด็นการลดต้นทุนและเพิ่มรายได้ให้เกษตรกร การพัฒนาคุณภาพปาล์มน้ำมัน ตามยุทธศาสตร์การปฏิรูปปาล์มน้ำมันและน้ำมันปาล์มแห่งชาติ การปรับสมดุลย์น้ำมันปาล์มในประเทศ การกำหนดมาตรฐานโรงงานสกัดน้ำมันปาล์ม การส่งเสริมการใช้น้ำมันดีเซลบี 20 และการส่งเสริมปลูกปาล์มน้ำมันพันธุ์ดี
โดย พล.อ.ประวิตร ได้ขอความร่วมมือทุกหน่วยงานร่วมกันแสดงความจริงใจพิจารณานำข้อเสนอของสภาเกษตรกรแห่งชาติและมติร่วมของที่ประชุมไปเร่งรัดผลักดันขับเคลื่อนร่วมกับยุทธศาสตร์การปฏิรูปปาล์มน้ำมันและน้ำมันปาล์มแห่งชาติ ทั้งระบบบนฐานข้อมูลจริงที่ตรงกันทุกฝ่าย โดยขอให้คำนึงถึงประโยชน์ร่วมของทุกกลุ่มที่มีส่วนได้เสียอย่างทั่วถึงเป็นธรรม ทั้งเกษตรกร ผู้ประกอบการอุตสาหกรรมปาล์มน้ำมัน และภาครัฐ เพื่อร่วมกันรักษาเสถียรภาพของระบบเกษตรและอุตสาหกรรมปาล์มน้ำมันในภาพรวม
นางนันทวัลย์ ศกุนตนาค ปลัดกระทรวงพาณิชย์ กล่าวว่า ที่ประชุมมีมติให้ดำเนินมาตรการระยะสั้น เพื่อแก้ไขปัญหาสต็อกน้ำมันปาล์มดิบที่เพิ่มขึ้น โดยให้ตั้งคณะทำงานเพื่อพิจารณาว่าจะใช้มาตรการใดในการเร่งรัดและผลักดันการส่งออก เช่น การช่วยเหลือค่าขนส่ง เพื่อให้ผู้ส่งออกมีต้นทุนต่ำลงและสามารถแข่งขันด้านราคาส่งออกได้ มีเป้าหมายผลักดันส่งออกไม่ต่ำกว่า 300,000 ตัน ในช่วงเดือนมิ.ย.-ต.ค.61
ส่วนมาตรการอื่นๆ จะส่งเสริมให้เกษตรกรพัฒนาคุณภาพปาล์มน้ำมันให้ได้เปอร์เซ็นต์น้ำมันตั้งแต่ 18% ขึ้นไป มีเป้าหมายที่ 20%, ขอให้กรมศุลกากรดูแลการถ่ายลำ ผ่านแดนสำหรับน้ำมันปาล์มดิบ เพื่อป้องกันไม่ให้มีน้ำมันปาล์มดิบหลุดรอดเข้ามาในประเทศ, ขอให้กระทรวงอุตสาหกรรมกำหนดมาตรฐานโรงงานสกัดน้ำมันปาล์ม เพื่อให้รับซื้อผลปาล์มดิบเปอร์เซ็นต์น้ำมันตั้งแต่ 18% ขึ้นไป หากใครไม่ร่วมมือก็อาจใช้อำนาจพิจารณาสั่งปิดโรงงานได้ และขอให้กระทรวงพลังงานส่งเสริมการใช้น้ำมันดีเซลหมุนเร็ว บี 20 ในรถบรรทุกขนาดใหญ่ ซึ่งจะทำให้ดึงน้ำมันปาล์มดิบออกจากระบบได้ถึงปีละ 250,000 ตัน
สำหรับมาตรการระยะยาว จะส่งเสริมให้มีการพัฒนาคุณภาพปาล์มน้ำมัน โดยส่งเสริมให้ปลูกปาล์มน้ำมันพันธุ์ดีทดแทนสวนเก่าที่มีอายุมากกว่า 20 ปี โดยสนับสนุนค่าใช้จ่ายให้แก่เกษตรกร เช่น ค่าต้นกล้าปาล์ม ปุ๋ย สารเคมี เป็นต้น ซึ่งกระทรวงเกษตรและสหกรณ์การเกษตรจะเป็นผู้พิจารณามาตรการสนับสนุนอีกครั้งว่าจะมีอะไรจูงใจเกษตรกรได้บ้าง
นอกจากนี้ ที่ประชุมยังได้มีมติแต่งตั้งให้ผู้แทนชาวสวนปาล์มจากจังหวัดต่างๆ จำนวน 10 ท่านให้เข้ามาเป็นกรรมการใน กนป. เพิ่มเติมจากที่มีอยู่แล้ว