นายอดุลย์ โชตินิสากรณ์ อธิบดีกรมการค้าต่างประเทศ เปิดเผยว่า วันที่ 4 มิ.ย.นี้ กรมฯ จะออกประกาศเงื่อนไขการประมูล (ทีโออาร์) ข้าวสารที่เหลือในสต๊อกรัฐบาลปริมาณกว่า 2 ล้านตัน แยกเป็นข้าวกลุ่ม 2 ซึ่งเป็นข้าวเสื่อมที่จะระบายเข้าสู่อุตสาหกรรมที่ไม่ใช่การบริโภคของคน ปริมาณ 1.5 ล้านตัน และกลุ่ม 3 ข้าวเสื่อมที่จะระบายเข้าสู่อุตสาหกรรมที่ไม่ใช่การบริโภคของคนและสัตว์ 500,000 ตัน โดยข้าวทั้ง 2 กลุ่มนี้เป็นข้าวล็อตสุดท้ายในสต๊อกที่รัฐบาลนี้รับมาจากรัฐบาลชุดก่อนทั้งสิ้นประมาณ 18 ล้านตัน
ทั้งนี้ กรมฯจะเปิดชี้แจงทีโออาร์ให้ผู้สนใจเสนอซื้อในวันที่ 5 มิ.ย. จากนั้นจะเปิดให้ดูคลังเก็บข้าวจนถึงวันที่ 8 มิ.ย. และวันที่ 11 มิ.ย. ให้ยื่นซองเอกสารคุณสมบัติ ซึ่งจะประกาศผลผู้ผ่านคุณสมบัติวันที่ 14 มิ.ย.สำหรับผู้สนใจซื้อข้าวกลุ่ม 2 และจะเปิดให้ยื่นซองเสนอราคาและเปิดซองวันที่ 14 มิ.ย.เช่นกัน ส่วนวันที่ 15 มิ.ย.หลังจากประกาศผลผู้ผ่านคุณสมบัติที่ต้องการซื้อข้าวกลุ่ม 3 แล้ว จะเปิดให้ยื่นซองเสนอราคา และเปิดซองราคาวันเดียวกัน
"เมื่อได้ผลสรุปการประมูลแล้ว กรมฯ จะนำผลเสนอให้คณะกรรมการนโยบายและบริหารจัดการข้าว (นบข.) เพื่อพิจารณาอนุมัติ หากขายได้หมด จะทำให้ไม่เหลือข้าวในสต็อกรัฐบาลอีกแล้ว แต่ถ้าไม่หมด จะนำมาเปิดประมูลต่อจนกว่าจะหมด แต่มั่นใจว่าน่าจะเปิดประมูลขายได้หมดภายในปีนี้ตามเป้าหมาย" นายอดุลย์ กล่าว
สำหรับการประมูลข้าวตั้งแต่เดือน พ.ค.57 จนถึงปัจจุบัน กรมฯ ได้ดำเนินการระบายข้าวในสต๊อกรัฐบาลได้แล้ว 14.84 ล้านตัน และวันที่ 16 พ.ค.61 จะเปิดให้ยื่นซองคุณสมบัติข้าวกลุ่ม 1 ซึ่งเป็นข้าวเพื่อการบริโภคปริมาณ 46,000 ตัน และยื่นซองราคาวันที่ 18 พ.ค.61 ส่วนการส่งออกข้าวตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค.-11 พ.ค.61 มีปริมาณ 3.987 ล้านตัน เพิ่มขึ้น 2.3% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน มูลค่าเป็นเงินบาท 63,000 ล้านบาท เพิ่ม 11.1% หรือ 2,000 ล้านเหรียญสหรัฐฯ เพิ่ม 23.08%