นายพงษ์ภาณุ เศวตรุนทร์ ปลัดกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เปิดเผยถึงสถานการณ์ท่องเที่ยวเดือนเม.ย.61 ว่า มีจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติ 3,092,725 คน ขยายตัว 9.38% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน ตามการขยายตัวของนักท่องเที่ยวตลาดหลัก ได้แก่ ภูมิภาคเอเชียตะวันออกและเอเชียใต้ ซึ่งขยายตัว 14.46% และ 12.60% ตามลำดับ ก่อให้เกิดรายได้ 157,438.33 ล้านบาท ขยายตัว 12.52%
ส่งผลให้ในช่วง 4 เดือนแรกปี 61 (ม.ค.-เม.ย.) มีจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติ 13,701,411 คน ขยายตัว 13.97% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน สร้างรายได้ 730,750.51 ล้านบาท ขยายตัว 17.55%
"ปีนี้ถ้าไม่มีอะไรเกิดขึ้นและเป็นไปตามแนวโน้มปกติ เราอาจจะถึง 30 ล้านปลายๆ เดิมเราตั้งเป้าไว้ 37-38 ล้านคน ก็น่าจะถึงสบายๆ"
ปลัดท่องเที่ยว กล่าวถึงรายได้รวมจากการท่องเที่ยวว่า ใน 4 เดือนแรกทำได้ 9.98 แสนล้านบาท แบ่งเป็นรายได้นักท่องเที่ยวต่างชาติ 7.31 แสนล้านบาท รายได้จากไทยเที่ยวไทย 2.67 แสนล้านบาท
"4 เดือนแรกทำได้ 1 ล้านล้านบาทแล้ว ถ้าช่วง 4 เดือนต่อมาและ 4 เดือนสุดท้ายทำได้ช่วงละ 1 ล้านล้านบาท ก็จะทำให้เป็นไปตามเป้าหมายที่วางไว้คือ 3 ล้านล้านบาท"
จากการสำรวจ พบว่า นักท่องเที่ยวใช้จ่ายเงินด้านที่พักสูงเป็นอันดับ 1 และแหล่งท่องเที่ยวในเมืองหลักมากกว่า 90% มีการนำเทคโนโลยีสารสนเทศมาใช้ในการบริหารจัดการการเงินการบัญชี ส่วนแหล่งท่องเที่ยวเมืองรอง มีผู้ประกอบการเพียง 80% ที่นำเทคโนโลยีมาใช้ นอกจากนี้พบว่าผู้ประกอบการทั้งเมืองหลักและเมืองรองใช้เฟซบุคและแอพพลิเคชั่นไลน์ในการสื่อสารกับลูกค้าเป็นหลัก
ทั้งนี้ สถานการณ์สถานพักแรมที่สำคัญ ในเดือนมี.ค. 61 มีอัตราการเข้าพัก 75.5% ขยายตัว 4.1% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน ขณะที่อัตราการจองที่พักล่วงหน้าเดือนมิ.ย.61 อยู่ที่ 40.1% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน
"สถานพักแรมในแหล่งท่องเที่ยวเมืองหลักและเมืองรองมีการใช้เทคโนโลยีดิจิทัลเข้ามาสนับสนุนการทำธุรกิจ แต่ก็พบว่ายังมีช่องว่างระหว่างเมืองหลักกับเมืองรองพอสมควร โดยเฉพาะเรื่องอัตราค่าห้องพักที่ยังต่างกันถึง 2 เท่า ดังนั้น ถ้าสามารถร่วมมือกับหน่วยงานอื่นๆทั้งภาครัฐและเอกชนในการส่งเสริมให้โรงแรมขนาดเล็กที่อยู่ในเมืองรองสามารถเข้าถึงเทคโนโลยีดิจิทัลได้ก็จะเป็นสิ่งที่ดีก็จะสามารถรองรับสิ่งที่รัฐบาลดำนินการมาทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็นการนำค่าใช้จ่ายจากการท่องเที่ยวเมืองรองมาลดหย่อนภาษี หรือทำให้โรงแรมที่พักถูกต้องตามกฎหมายโรงแรม ทำให้เข้าสู่ระบบภาษีอย่างถูกต้องตามกฎหมาย น่าจะทำให้อุตสาหกรรมโรงแรมของประเทศไทยเจริญก้าวอีกระดับนึง ซึ่งอาจจะต้องทำงานร่วมกับประชารัฐ"