สศก.ชี้ตลาดดิจิทัลมีส่วนช่วยขยายตลาดสินค้าเกษตรไปตปท.มากขึ้น หนุนราคาขายสูงขึ้น แนะพัฒนาคุณภาพสินค้าตรงความต้องการ

ข่าวเศรษฐกิจ Thursday May 17, 2018 12:30 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายภูมิศักดิ์ ราศรี ผู้อำนวยการศูนย์ปฏิบัติการเศรษฐกิจการเกษตร สำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร (สศก.) เปิดเผยถึงการวิเคราะห์ผลกระทบตลาดดิจิทัลที่มีต่อภาคเกษตร โดยความร่วมมือด้าน Smart Digital Hub and Digital Transformation Strategic Partnership ระหว่างไทยกับ Alibaba ทางสำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร และ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ได้วิเคราะห์ผลกระทบต่อเศรษฐกิจ และเศรษฐกิจการเกษตร ภาพรวม พบว่า ผลกระทบที่มีต่อเศรษฐกิจการเกษตร เป็นโอกาสในการพัฒนาศักยภาพผู้ประกอบการ SMEs เกษตรกร และองค์กรเกษตรกร ที่มีความสามารถในการปรับตัวด้านเทคโนโลยีดิจิทัล จะมีโอกาสในการเข้าถึงตลาดต่างประเทศได้มากขึ้น สามารถเข้าถึงผู้บริโภคทั้งในประเทศไทย จีน และทั่วโลก กรณีสินค้าทุเรียน มีผู้สั่งซื้อ 80,000 ผล ภายในเวลา 1 นาที จึงส่งผลให้ปริมาณการส่งออกทุเรียนของไทยเพิ่มขึ้น เกษตรกรสามารถขายทุเรียนได้ในราคาที่สูงขึ้นเมื่อเปรียบเทียบกับการขายภายในประเทศ สามารถทำให้เกษตรกรมีรายได้ที่สูงขึ้นอย่างเห็นได้ชัด ประกอบกับราคาสินค้าเกษตรจะเป็นแรงจูงใจให้เกษตรกรรายใหม่ผลิตทุเรียนเพิ่มขึ้นเช่นกัน

ทั้งนี้ภาครัฐจะต้องมีมาตรการในการควบคุมคุณภาพสินค้าเกษตร ให้สอดคล้องและตรงกับความต้องการของผู้บริโภคหรือผู้ซื้อนั่นเอง นอกจากนี้ทุเรียนจะถูกผลิตจากประเทศไทย ส่งออก และมีการขนส่งโดยจีน ไม่ต้องเสียภาษีนำเข้าตามข้อตกลง FTA ของอาเซียน+1 ดังนั้นสำหรับผลไม้ของไทยจึงเป็นโอกาสทองไทย จะสามารถส่งออกได้อย่างสะดวกและรวดเร็วเพิ่มมากขึ้น

ดังนั้น ภาครัฐจะต้องควบคุมและเข้มงวดให้เกษตรกรและผู้ประกอบการเกษตรรวมกลุ่มกัน ดำเนินการตามมาตรฐานคุณภาพ เพราะสินค้าเกษตรเป็นสินค้าที่มีลักษณะเฉพาะ เสียหายง่าย ซึ่งจะต้องมีการบริหารจัดการที่มีประสิทธิภาพ เพื่อให้สินค้ามีคุณภาพดีจนถึงผู้ซื้อ เพื่อป้องกันปัญหาข้อร้องเรียนจากผู้บริโภคได้ รวมทั้งการศึกษารายละเอียดและเตรียมความพร้อมในด้านการผลิตสินค้าให้เกิดความสมดุล เพื่อให้ตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคได้อย่างทั่วถึงและในราคาที่เป็นธรรมด้วย

ขณะที่ผลกระทบที่มีต่อเศรษฐกิจของไทย ธุรกิจ SMEs โรงงาน ผู้ผลิต สามารถนำเสนอสินค้าแปลกใหม่ โดยการขายผ่านระบบ online ได้มากขึ้น ผู้บริโภคจากประเทศไทย สามารถซื้อของได้ถูกลง สินค้าราคาถูกจากจีนจะถูกนำเข้ามา สินค้าราคาถูกจากไทยก็ส่งออกไป เกิดการจ้างงานในธุรกิจที่เกี่ยวกับ e-commerce เป็นจำนวนมาก และจะมีธุรกิจที่เกี่ยวข้องใหม่ๆ เกิดขึ้น เช่น การขนส่งพัสดุ การสร้างคลังสินค้า และกิจกรรมที่เกี่ยวข้องอื่นๆ เป็นต้น ทั้งนี้สำหรับการจ้างพนักงานขาย พนักงานบริการ ตามห้างร้านต่าง ๆ จะมีปริมาณการจ้างงานลดลง กอปรผู้ประกอบการ พ่อค้าคนกลาง หรือผู้ส่งออก ผู้นำเข้าสินค้า ที่ดำเนินธุรกิจแบบดั้งเดิม จะถูกทดแทนด้วยธุรกิจออนไลน์ พฤติกรรมการซื้อสินค้าของผู้บริโภคจะมีการเปลี่ยนแปลง จึงส่งผลทำให้ผู้ประกอบการธุรกิจ SMEs ที่ผลิตสินค้าเหมือนกันจาก 2 ประเทศ เกิดการแข่งขันทางด้านต้นทุนและการค้าระหว่างประเทศมากยิ่งขึ้น

ในส่วนของรัฐบาล ควรให้ความสำคัญในการปกป้องผู้ประกอบการในประเทศไทย จากการที่สินค้าของประเทศจีนถูกนำเข้ามาขายในประเทศเรา ดังนั้นควรส่งเสริมและพัฒนาบุคลากรและสิ่งอำนวยความสะดวก เพื่อเตรียมความพร้อมรองรับการเปลี่ยนแปลงที่จะเกิดขึ้น โดยภาครัฐ ภาคเอกชนและสถาบันการศึกษา ต้องเร่งร่วมมือกันพัฒนาและสร้างภูมิต้านทานให้ผู้ประกอบการและธุรกิจ SMEs ของไทย และเร่งสร้าง platform หลายๆด้านให้กับสินค้าไทย เพื่อทำให้สินค้าไทยมีราคาที่ดี รวมถึงป้องกันสินค้าจากจีนที่จะเข้ามาในประเทศจนมากเกินไป


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ