นางอรมน ทรัพย์ทวีธรรม อธิบดีกรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ เผยภาวะการค้าไทย-อินเดียในช่วงที่ผ่านมามีการขยายตัวอย่างต่อเนื่อง โดยในปี 2560 มูลค่าการค้ารวมระหว่างไทย-อินเดียอยู่ที่ 10,385.6 ล้านเหรียญสหรัฐ เพิ่มขึ้นจากปีก่อนหน้า 34% และในปี 2561 (ม.ค.-ก.พ.) มูลค่าการค้าระหว่างไทยกับอินเดียอยู่ที่ 2,024.5 ล้านเหรียญสหรัฐ เพิ่มขึ้น 31% จากช่วงเวลาเดียวกันของปี 2560 โดยไทยส่งออกไปอินเดีย 1,286.1 ล้านเหรียญสหรัฐ และนำเข้าจากอินเดีย 737.4 ล้านเหรียญสหรัฐ
อธิบดีกรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ กล่าวว่า จากการติดตามข้อมูลการใช้สิทธิประโยชน์ FTA พบว่า ความตกลงการค้าเสรีไทย-อินเดีย หรือ TIFTA ซึ่งมีผลบังคับใช้เมื่อวันที่ 1 ก.ย.47 หรือเกือบ 15 ปีมาแล้ว ปัจจุบันมีการยกเลิกภาษีนำเข้าสินค้าระหว่างกัน 83 รายการ เช่น เงาะ ลำไย มังคุด ทุเรียน องุ่น ข้าวสาลี อาหารทะเลกระป๋อง อัญมณีและเครื่องประดับ เม็ดพลาสติก เครื่องปรับอากาศและส่วนประกอบ เป็นต้น ไทยมีการส่งออกไปอินเดียโดยใช้สิทธิภายใต้ FTA ไทย-อินเดีย ในช่วงเดือน ม.ค.-ก.พ.61 ถึง 114.3 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือกว่า 56% ของมูลค่าการส่งออกสินค้าที่ได้รับสิทธิ ขณะที่นำเข้าโดยใช้สิทธิ FTA ไทย- อินเดีย 4.4 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือคิดเป็นสัดส่วน 0.6% ของการใช้สิทธิ FTA
ขณะที่ภายใต้ความตกลงการค้าเสรีอาเซียน-อินเดีย หรือ AIFTA ซึ่งมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค.53 ปัจจุบันได้สินค้าที่ค้าขายระหว่างกันกว่า 85% ของรายการสินค้าทั้งหมด มีอัตราภาษีนำเข้าระหว่าง 0-5% โดยอินเดียได้ลดภาษีนำเข้าสินค้าสำคัญของไทย เช่น เครื่องใช้ไฟฟ้า (เครื่องรับโทรทัศน์สี เตาไมโครเวฟ ตู้เย็น พัดลม) เครื่องปรับอากาศและส่วนประกอบ น้ำผลไม้ สิ่งปรุงรสอาหาร พลาสติกและผลิตภัณฑ์พลาสติก และชิ้นส่วนยานยนต์ เป็นต้น ทั้งนี้เดือน ม.ค.-ก.พ.61 ไทยใช้สิทธิ AIFTA เพื่อส่งออกไปยังอินเดียกว่า 567.8 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือ 45% ของมูลค่าการส่งออกของรายการสินค้าที่ได้รับสิทธิ ขณะที่นำเข้าโดยใช้สิทธิภายใต้ FTA อาเซียน- อินเดีย มีมูลค่า 104.6 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือคิดเป็นสัดส่วน 14.2% ของการใช้สิทธิ FTA
อธิบดีกรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ กล่าวว่า อินเดียเป็นหนึ่งในประเทศเป้าหมายตามแผนดำเนินการตามนโยบายยุทธศาสตร์หุ้นส่วนเศรษฐกิจ (Strategic Partnership) ของกระทรวงพาณิชย์ เนื่องจากอินเดียเป็นตลาดใหม่ที่น่าสนใจสำหรับผู้ประกอบการไทย และเป็นตลาดที่มีศักยภาพสูงด้วยขนาดของตลาด จำนวนประชากรกว่า 1,300 ล้านคน และมีรัฐถึง 29 รัฐ ที่มีการบริโภคและความต้องการสินค้าและบริการที่แตกต่างกันไปในแต่ละรัฐ กรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศจึงขอเชิญชวนผู้ประกอบการไทย เร่งใช้สิทธิ FTA ส่งออก-นำเข้ามากขึ้น และแสวงหาโอกาสจากตลาดอินเดีย โดยเฉพาะการส่งออกผลไม้ไทย เช่น ทุเรียน และลำไย เพิ่มเติมจากตลาดเดิมในอาเซียน หรือจีน เพื่อเป็นทางเลือกใหม่ของผู้ส่งออกไทย
ทั้งนี้ สินค้าส่งออกหลักสำคัญของไทยไปอินเดีย ได้แก่ เคมีภัณฑ์ เม็ดพลาสติก ไขมันและน้ำมันจากพืชและสัตว์ เครื่องปรับอากาศและส่วนประกอบ รถยนต์ อุปกรณ์และส่วนประกอบ และสินค้านำเข้าสำคัญของไทยจากอินเดีย ได้แก่ เครื่องเพชรพลอย อัญมณี เงินแท่งและทองคำ เคมีภัณฑ์ เครื่องจักรกลและส่วนประกอบ