นายอดุลย์ โชตินิสากรณ์ อธิบดีกรมการค้าต่างประเทศ เปิดเผยว่า ตามที่คณะทำงานดำเนินการระบายข้าวในสต็อกของรัฐ ได้ออกประกาศจำหน่ายข้าวสารในสต็อกของรัฐเป็นการทั่วไป ครั้งที่ 1/2561 ปริมาณ 4.37 หมื่นตัน จำนวน 20 คลัง ซึ่งกรมฯ ในฐานะประธานคณะทำงานดำเนินการระบายข้าวในสต็อกของรัฐได้จัดให้มีการชี้แจงหลักเกณฑ์และเงื่อนไขประกาศ (TOR) การจำหน่ายข้าวสารดังกล่าว เมื่อวันที่ 7 พฤษภาคม 2561
ต่อมา เมื่อวันที่ 16 พฤษภาคม 2561 ที่ผ่านมา ได้มีผู้สนใจยื่นซองเอกสารคุณสมบัติผู้เสนอซื้อ จำนวน 43 ราย และจากการตรวจสอบเอกสารหลักฐานและคุณสมบัติของผู้เสนอซื้อดังกล่าวของคณะทำงานรับซองเสนอซื้อ ร่วมกับผู้แทนจากกรมการค้าภายใน และกรมพัฒนาธุรกิจการค้า ปรากฏว่ามีผู้ผ่านคุณสมบัติผู้เสนอซื้อเบื้องต้นทั้งหมด 43 ราย ซึ่งกรมฯ ได้ประกาศรายชื่อผู้ผ่านคุณสมบัติผู้เสนอซื้อเบื้องต้นดังกล่าว ในวันที่ 18 พฤษภาคม 2561 เวลา 09.00 น. ทั้งนี้ หากปรากฏภายหลังว่าผู้เสนอซื้อรายใดขาดคุณสมบัติหรือมีลักษณะต้องห้ามตามที่ประกาศกำหนดจะถือว่าผู้เสนอซื้อรายนั้นขาดคุณสมบัติมาตั้งแต่ต้น และจะถูกดำเนินการตามหลักเกณฑ์และเงื่อนไขของประกาศ (TOR) ที่กำหนดไว้
โดยในวันเดียวกันนี้ ตั้งแต่เวลา 09.00 – 12.00 น. ผู้ที่ผ่านคุณสมบัติผู้เสนอซื้อเบื้องต้นสามารถยื่นซองเสนอซื้อข้าวสารในสต็อกของรัฐเป็นการทั่วไป ครั้งที่ 1/2561 ซึ่งผลจากการเปิดซองเสนอซื้อในช่วงบ่าย ปรากฏว่ามีผู้สนใจมายื่นซองจำนวน 35 ราย โดยเป็นผู้เสนอราคาซื้อสูงสุด จำนวน 9 ราย ใน 20 คลัง ปริมาณ 4.37 หมื่นตัน (คิดเป็น 100% ของปริมาณที่เปิดประมูลทั้งหมด) มูลค่าที่เสนอซื้อประมาณ 534.08 ล้านบาท ช่วงราคาเสนอซื้อสูงสุด 6,000.02 – 22,000.00 บาท/ตัน สำหรับชนิดข้าวที่มีผู้เสนอราคาซื้อมากที่สุดคือ ข้าวขาว 5% ปริมาณ 2.45 หมื่นตัน คิดเป็น 56.08% รองลงมาได้แก่ ข้าวหอมมะลิ 100% ชั้น 2 ปริมาณ 0.73 หมื่นตัน คิดเป็น 16.74%
ในลำดับต่อไป กรมฯ จะดำเนินการประมวลผลการยื่นซองเสนอซื้อข้าวสารในสต็อกของรัฐเป็นการทั่วไป ครั้งที่ 1/2561 เข้าที่ประชุมคณะทำงานดำเนินการระบายข้าวในสต็อกของรัฐ และคณะอนุกรรมการพิจารณาระบายข้าว ก่อนเสนอประธานกรรมการนโยบายและบริหารจัดการข้าว (นบข.) พิจารณาให้ความเห็นชอบการจำหน่ายข้าวสารในสต็อกของรัฐต่อไป
"ทั้ง 9 รายที่เสนอซื้อในราคาสูงสุด น่าจะอนุมัติขายทั้งหมด เพราะถือว่าให้ราคาดีมากเมื่อเทียบกับการประมูลข้าวทั่วไปรอบที่แล้วเมื่อเดือนมี.ค.60 ซึ่งขณะนั้น ราคาเสนอซื้อข้าวสารหอมมะลิ 100% ชั้น 2 อยู่ที่ตันละ 8,800-10,200 บาท แต่ครั้งนี้เสนอซื้อราคาเฉลี่ยตันละ 18,000 บาท และมีการเสนอซื้อข้าวหอมมะลิที่ราคาสูงสุดถึง 22,000 ส่วนข้าวขาว 5% ได้ราคาดีกว่ารอบก่อนเช่นกัน โดยรอบก่อนเสนอซื้อราคาเฉลี่ย 10,000 บาท รอบนี้เสนอซื้อเฉลี่ย 11,400 บาท" นายอดุลย์ กล่าว
โดยผู้เสนอราคาซื้อสูงสุดทั้ง 9 ราย ได้แก่ ห้างหุ้นส่วนจำกัด รุ่งเจริญพืชผล 2504, บริษัท ธัญญไร้ซ์ (ไทยแลนด์), ห้างหุ้นส่วนจำกัด โรงสีทรัพย์แสงทอง 2550, บริษัท ร่วมเจริญพัฒนาการข้าว จำกัด, บริษัท กำแพงเพชร เอ็กซ์ปอร์ต จำกัด, ห้างหุ้นส่วนจำกัด สุวิทย์ ไรซ์มิลล์, บริษัท วัฒนพร อินเตอร์โกลเด้นไรซ์ จำกัด บริษัท ครอบครัวข้าวสาร จำกัด และบริษัท ธนสรร ไรซ์ จำกัด
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ราคาข้าวสารในตลาดปัจจุบันพบว่า ข้าวสารหอมมะลิ 100% ชั้น 2 ราคาตันละ 33,100 บาท, ข้าวเปลือกหอมมะลิตันละ 15,500-16,600 บาท, ข้าวสารขาว 5% ตันละ 12,900-13,000 บาท, ข้าวเปลือกเจ้าตันละ 8,000-8,200 บาท ส่วนราคาส่งออกข้าวขาว 5% ตันละ 450 เหรียญสหรัฐฯ, ข้าวหอมมะลิ 100% ชั้น 2 ตันละ 1,101 เหรียญฯ
สำหรับการส่งออกข้าวไทยตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค.-16 พ.ค. 61 ส่งออกได้แล้ว 4.10 ล้านตัน เพิ่มขึ้น 2.12% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมา คิดเป็นมูลค่า 65,900 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 10.83% (หรือ 2,093 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เพิ่มขึ้น 22.75%)